TRUBB : บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน)
หมวดธุรกิจ : ธุรกิจการเกษตร  www.thaitex.com

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
-----------------------------------------------------------------------
พฤหัสฯ 23 ก.ย.--"BUY" TRUBB :
ที่มา : หนังสือพิมพ์ทันหุ้น

บมจ.ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอเรชั่น (TRUBB)
คำแนะนำ              BUY
ราคาเป้าหมาย          9.10 (+20%)
Median Consensus:    NA.
Stock information
ราคาปิด          7.60 บาท
ราคาปิดสูง/ตำใน 1 ปี            10.20/0.88 บาท
มูลค่าตลาด                       3,314 ล้านบาท
ปริมาณหุ้น (พาร์ 1)                436.14 ล้านหุ้น
มูลค่าตามบัญชี/หุ้น                      4.14 บาท
Free Float                           31.49%
Foreign Limit/Available          25%/23.44%
NVDR in hand (% of shares)            3.13%
ปริมาณหุ้นเฉลี่ย/วัน (‘000)              8,595.21
วิเคราะห์อุตสาหกรรม
อุตสาหกรรม            ธุรกิจการเกษตร
Sector Rating                9/10
Group EPS Growth           2552A      2553F
                                           +266%       +90%
คาดธุรกิจยางดีไปอีก 10 ปี มีสินค้าต่อยอด มาร์จิ้นดี
          ธุรกิจหลักของ TRUBB คือผลิตน้ำยางข้น และยางยืด สัดส่วนประมาณ 86% และ 14% ตามลำดับ บริษัทขยายตัวเข้าสู่ธุรกิจที่นอนยางพารา ซึ่งมีมาร์จิ้นสูงกว่าผลิตภัณฑ์ยางพื้นฐาน (ยางข้น ยางแท่ง ยางแผ่น) นอกจากนี้ในปี 2554 จะเริ่มมีการผลิตยางแท่ง ซึ่งดีมานด์ในตลาดดีเพราะมาจากอุตสาหกรรมยางรถยนต์มากถึง 70% นอกจากนี้อนาคตข้างหน้า TRUBB ยังรอรับผลผลิตจากการปลูกยาง (Backward Integration) เพิ่มเข้ามาทำให้เกิดความมั่นคงในธุรกิจเพิ่มมากขึ้น เราแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 9.1 บาท
          - คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2553 เติบโต 266%YoY: 1H53 มีกำไรสุทธิ 297 ล้านบาท หรือ 0.66 บาท โดยทำกำไรไปดีมากในไตรมาส 1/53 ส่วนไตรมาส 3/53 คาดว่าเป็นไตรมาสที่กำไรอ่อนแอที่สุดของปีนี้ โดยเราคาดการณ์ในเบื้องต้นประมาณ 60 ล้านบาท แต่ทั้งปีเรายังคาดการณ์บริษัทจะทำกำไรได้ราว 439 ล้านบาท คิดเป็น EPS 1.01 บาทต่อหุ้น
          - กำไรโตเติบโตดี เหตุเพราะอุตสาหกรรมเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น: สาเหตุจาก ภาพรวมของอุตสาหกรรมยางพาราเปลี่ยนไป ผู้ขายมีอำนาจต่อรองสูงขึ้น ดีมานด์ดีดึงราคายางพาราเป็น Uptrend ซึ่ง TRUBB เชื่อว่า Cycle นี้อาจทำให้อุตสาหกรรมยางพาราดีต่อเนื่องยาวนานถึง 10 ปี  การขาดทุนจากสต๊อกเหมือนอดีตมีโอกาสเกิดขึ้นไม่มากอย่างแต่ก่อนแล้ว   
          - คาดกำไรในไตรมาส 3/53 ประมาณ 69 ล้านบาท: ลดลง 42% QoQ จากไตรมาส 2/53 ที่กำไร 98 ล้านบาท ในขณะที่ไตรมาส 1/53 TRUBB มีกำไร 195 ล้านบาท  ต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมยางพาราในช่วงไตรมาส 3 ของทุกปีรวมถึง จะเป็นช่วงที่คุมราคาขาย และมาร์จิ้นได้ยากกว่าไตรมาสอื่น ๆ ของปี โดยเราคาดว่า  ช่วงที่ราคายางตกต่ำในปลายไตรมาส 2/53 ต่อเนื่องในต้นไตรมาส 3/53 จะส่งผลให้มาร์จิ้นในช่วงไตรมาส 3/53 ไม่ดี แต่เมื่อราคายางสู่ภาวะปกติขณะนี้ ราคายางอยู่ในช่วง 3,300 เหรียญฯ ต่อตัน จะทำให้ไตรมาส 4/53 TURBB กลับมามีกำไรในระดับที่ดีได้อีก
          - ประเมินมูลค่าเหมาะสมเป็น 9.10 บาท:  ปัจจุบัน TRUBB ซื้อขายที่ค่า PER ประมาณ 7 เท่า แต่ในปี 2554 คาดว่า  TRUBB จะมีกำไรโตประมาณ 10-15% ทำให้กำไรเพิ่มเป็น 484 ล้านบาท หรือ 1.11 บาทต่อหุ้น โดยปี 2H54 จะมีกำลังการผลิตยางแท่งเข้ามา 5,000 ตันต่อเดือน (กำลังการผลิตตาม Nameplate คาดว่าอยู่ที่ 60,000 ตันต่อปี) และสายธุรกิจที่นอนยางพารามีมาร์จิ้นดีขึ้น และจะปันกำไรให้บริษัทดีขึ้นในปี 2554 ส่วนธุรกิจสวนยางจะเริ่มทำกำไรได้ประมาณปี 2555 และเต็มที่ประมาณปี 2557 ดังนั้น คาดว่ากำไรสุทธิของ TRUBB จะค่อย ๆ ปรับตัวสูงขึ้นปี 2554  คาดกำไร 1.13 บาท ปี 2555 คาดกำไรขึ้นไปเป็น 1.26 บาท ดีขึ้นโดยลำดับ เรากำหนดราคาเป้าหมายไว้ที่ 9.10 บาท อิงค่า PER ประมาณ 9 เท่า ปี 2554 ซื้อรับปันผลได้  
          TRUBB เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำยางข้น และยางยืด ในสัดส่วน 86%: 14% ตามลำดับกำลังการผลิตเต็มที่ น้ำยางข้นเท่ากับ 256,000 ตันต่อปี ในปี 2552 ใช้กำลังการผลิตประมาณ 60% จำหน่ายในประเทศเป็นส่วนใหญ่ ลูกค้าที่สำคัญของบริษัทประกอบด้วย ผู้ผลิตถุงมือยาง 36% อัตราการเติบโตของยอดขายในธุรกิจนี้ 18% เส้นด้าย และยางยืด 29% อัตราการเติบโตในธุรกิจนี้ 44% ผู้นำเข้า  บริษัทนายหน้าและผู้นำเข้าในต่างประเทศ 19% และจัดจำหน่ายในประเทศ 16% นอกจากนี้ TRUBB มีแผนที่จะปลูกสวนยางเพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบใช้เอง โดยตั้งเป้าไว้ที่ 20,000 ไร่ ซึ่งในขณะนี้ได้ทยอยปลูกไปแล้ว 10,000 ไร่ คาดว่าจะเริ่มให้ผลผลิตในปี 2556-57 และจะให้ผลประโยชน์ประมาณ 1,000 บาทต่อไร่ต่อเดือน
           --โดย บมจ. หลักทรัพย์ทรีนีตี้ ประจำวันที่ 23 ก.ย. 2553