PTTGC : บริษัท โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)
หมวดธุรกิจ : ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์  www.pttgcgroup.com

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
-----------------------------------------------------------------------
ศุกร์ 17 ส.ค.2555--PTTGC :
ที่มา : COMPANY VISIT NOTE : บล.โกลเบล็ก

Sector : Energy               ราคาปิด 64.25 บาท
PTT GLOBAL CHEMICAL PLC. (PTTGC)     ซื้อ ราคาเหมาะสม 78.70 บาท
คาดกำไรสุทธิ 3Q55 กลับมาเพิ่มขึ้นจากธุรกิจโรงกลั่นที่ฟื้นตัว

     เรามองผลประกอบการของ PTTGC ได้ผ่านจุดเลวร้ายของปีมาแล้ว เพราะเชื่อว่าผลประกอบการที่ขาดทุนของธุรกิจโรงกลั่นของ PTTAR (เดิม)ที่ฉุดให้ผลประกอบการของ PTTGC หดตัวจะพลิกกลับมามีกำไรโดยมีแรงหนุนจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันทำให้คาดได้ว่าไตรมาสนี้ AR จะกลับมาบันทึกกำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบจากที่ขาดทุนอย่างมากใน 2Q55 ส่วนธุรกิจปิโตรฯสายโอเลฟินส์ของ PTTCH (เดิม)แม้ 3Q55 จะถูกกดดันจากราคาที่ลดลงจากภาวะ Over Supply และมีต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการปรับสูตรราคาก๊าซกับปตท.แต่คาดว่ากำไรจะลดลงไม่มากเนื่องจากจะมีปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจากการปรับเพิ่ม Utilization มาชดเชย ส่วนทั้งปีเราคาดกำไรสุทธิในปีนี้ประมาณ 25,960 ล้านบาทลดลง 14%yoy อย่างไรก็ตามเราคาดว่าตลาดได้รับรู้ถึงผลประกอบการที่หดตัวใน 2Q55 และคาดว่าการฟื้นตัวของผลประกอบการใน 2H55 และปี 56 จะเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาหุ้นในระยะยาวปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้นเราจึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" โดยมีราคาเป้าหมายปี 56 ที่ 78.70 บาท
ประเด็นสำคัญในการลงทุน :
     * การฟื้นตัวของ PTTAR (เดิม)จะช่วยให้งบ PTTGC กลับมาเพิ่มขึ้นใน 3Q55 : ผลประกอบการที่หดตัวแรงใน 2Q55 สาเหตุหลักมาจากการขาดทุนสต๊อกน้ำมันดิบของธุรกิจโรงกลั่นของ PTTAR (เดิม) ดังนั้นหาก 3Q55 ผลประกอบการของ PTTAR พลิกกลับมามีกำไรก็จะทำให้ผลการดำเนินงานของ PTTGC เพิ่มขึ้นทันที ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูง เพราะปัจจุบันทุกธุรกิจของ AR กำลังฟื้นตัวได้ดี โดยโรงกลั่นค่าการกลั่นปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 10$/bbl เพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 5-7 $/bbl ใน 2Q55 ส่วนธุรกิจปิโตรฯสายอะโรเมติกส์ราคาและส่วนต่าง PX มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามความต้องการที่ขยายตัว คือ 1)3Q-4Q เป็นช่วงสะสมสต๊อกหรือวัตถุดิบไว้ใช้ผลิตเสื้อกันหนาวในช่วงหน้าหนาว และ2)สินค้าทดแทนโพลีอิสเตอร์หรือฝ้ายมีราคาแพงหลังเกิดปัญหาภัยแล้งในอเมริกาทำให้มีปริมาณฝ้ายออกสู่ตลาดน้อย และที่สำคัญราคาน้ำมันดิบดูไบที่ปรับตัวสูงขึ้นจากระดับ 95$/bbl ณ สิ้น 2Q55 มาอยู่ที่ระดับ 110$/bbl ในปัจจุบันและยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นได้อีกจากแรงหนุนของความตึงเครียดในตะวันออกกลางและการหยุดซ่อมบำรุงแหล่งผลิตน้ำมันในเขตทะเลเหนือจะเป็นปัจจัยบวกอย่างมากต่อ AR เพราะจะทำให้ผลการดำเนินงานที่ขาดทุนสต๊อกน้ำมันดิบใน 2Q55 พลิกมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบทันทีใน 3Q55
     * ปิโตรฯสายโอเลฟินส์(PTTCH เดิม)คาดผลประกอบการยังทรงตัวในระดับสูง : แม้ปัจจุบันราคาและส่วนต่างผลิตภัณฑ์ในสายโอเลฟินส์จะยังลดลงเพราะถูกกดดันจาก Supply ที่ล้นตลาดอีกทั้งใน 3Q55 ยังถูกกดดันจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการปรับสูตรราคาก๊าซใหม่กับปตท.อย่างไรก็ตามเราคาดว่า CH จะมีผลประกอบการที่ยังทรงตัวในระดับสูงหรือหากลดลงก็คาดว่าจะลดลงไม่มากเนื่องจาก CH จะมีปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจากการปรับเพิ่ม Utilization มาชดเชย อีกทั้งยังเชื่อว่าสถานการณ์ที่ส่วนต่างผลิตภัณฑ์ (HDPE) ที่ตกต่ำเหลือเพียง 375$/ton จะอยู่ได้ไม่นานเนื่องจากต่ำกว่าระดับ Breakeven ของผู้ผลิตที่ใช้ Naphtha เป็นวัตถุดิบที่ 400-450$/ton ดังนั้นหากส่วนต่างราคายังลดลงไปอีกจะกดดันให้ผู้ผลิตที่ใช้ Naphtha เป็นวัตถุดิบต้องหยุดผลิตซึ่งจะช่วยลดปัญหา Supply ตึงตัวในตลาดและจะทำให้ราคาและส่วนต่างกลับมาเพิ่มขึ้นในที่สุด
     * คงคำแนะนำ "ซื้อ" โดยมีราคาเป้าหมายปี 56 ที่ 78.70 บาท : เราคาดกำไรสุทธิของ PTTGC ในปีนี้ประมาณ 25,960 ล้านบาทลดลง 14% yoy อย่างไรก็ตามเราคาดว่าตลาดได้รับรู้ถึงผลประกอบการที่หดตัวแรงใน 2Q55 และการปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิในปีนี้ไปแล้ว และคาดว่าตลาดจะให้ความสำคัญกับการฟื้นตัวของผลประกอบการในครึ่งปีหลังและปี 56 มากกว่าโดยเราประเมินมูลค่าด้วยวิธี P/E Ratio อิง Prospective P/E ที่ 12 เท่าและ คาดการณ์ EPS ปี 56 ที่ 6.56 บาทจะได้ราคาเหมาะสมปี 56 ที่ 78.70 บาท
-----------------------------------------------------------------------

พุธ 8 ส.ค.2555--PTTGC :
ที่มา : Analyst Comment : บล.เกียรตินาคิน

PTTGC 2Q55 ที่ได้รับผลกระทบจาก Stock Loss แต่คาดว่าผลประกอบการ 3Q55 ฟื้นตัว
ราคาเป้าหมายปี 2555   68.00 บาท      ราคาล่าสุด (7 ส.ค. 55)     60.75 บาท
คำแนะนำ   ซื้อเก็งกำไร
ประเด็นสำคัญ    

    * PTTGC ประกาศกำไรสุทธิ 2Q55 อยู่ที่ 851 ล้านบาท ลดลงราว 90% qoq และ yoy ผลประกอบการได้รับผลกระทบจาก Stock Loss กว่า 6,187 ล้านบาท แต่กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น qoq จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น เชื่อว่าค่าการกลั่นและราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ผลประกอบการ 3Q55 ฟื้นตัว
ความเห็นนักวิเคราะห์   
    * กำไรสุทธิลดลงจากผลของ Stock Loss แต่กำไรจากการดำเนินงานแข็งแกร่ง ผลประกอบการของ PTTGC ได้รับผลกระทบจากการรับรู้ Stock Loss จำนวน 6,187 ล้านบาท (รวมโรงกลั่น โรงปิโตรเคมี และค่าเผื่อการลดมูลค่าสินค้าคงเหลือ (NRV)) ทำให้ PTTGC มีกำไรสุทธิ 2Q55 ลดลงอย่างมาเหลือเพียง 851 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม กำไรจากการดำเนินงานยังในไตรมาสนี้ยังแข็งแกร่งเติบโต 30% qoq เป็น 7,855 ล้านบาท จากปริมาณในผลิตภัณฑ์หลักที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งต้นทุนการผลิตที่ลดลง ตามทิศทางราคาน้ำมันและการเพิ่มสัดส่วนการใช้ก๊าซฯ ในการผลิตที่เพิ่มขึ้น
    * เลือก PTTGC เป็น Top Pick จากการฟื้นตัวของค่าการกลั่นและกำไรสุทธิในครึ่งปีหลัง ราคาหุ้น PTTGC ที่ปรับลดลงมา 12.4% สะท้อนปัจจัยลบจากแนวโน้มผลประกอบการ 2Q55 ที่ลดลง รวมทั้ง ประเด็นการปรับราคาซื้อขายก๊าซฯกับ PTT ไปหมดแล้ว เราประเมินว่า แนวโน้มผลประกอบการ 3Q55 จะมีความเสี่ยงจากการรับรู้ Stock Loss ลดลงจากไตรมาสนี้หลังราคาน้ำมันดิบเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ค่าการกลั่นได้ประโยชน์จากอุปสงค์น้ำมันสำเร็จรูปที่แข็งแกร่งในภูมิภาค ทำให้เรายังคงแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" มูลค่าเหมาะสม 68 บาท
-----------------------------------------------------------------------

พุธ 8 ส.ค.2555--PTTGC :
ที่มา : Earnings Preview : Maybank Kim Eng Sec.

บมจ. ปตท. โกลบอล เคมิคอล (PTTGC)    ซื้อ (Unchanged)
ราคาปิด (บาท):        60.75
ราคาเป้าหมาย (บาท):   67.50
ข้อมูลบริษัท
       Description : 1) ธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ 2) ธุรกิจการกลั่นน้ำมันและจัดหาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูป 3) ธุรกิจการให้บริการและอื่นๆ
ผลประกอบการ 2Q55 ตามคาด
       ประเด็นการลงทุน : PTTGC รายงานกำไรสุทธิ 2Q55 ที่ 851 ล้านบาทตามคาด ผลประกอบการแม้จะอ่อนตัวลงในทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรม แต่ยังถือว่าโดดเด่นกว่ากลุ่ม เราคาดหวังเงินปันผลสำหรับ 1H55 ที่ 1.00 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 1.65% แนวโน้มผลประกอบการ 3Q55 คาดจะฟื้นตัว QoQ ความชัดเจนในการปรับสูตรราคาก๊าซฯ และแนวโน้มธุรกิจสายโอเลฟินส์ที่คาดจะปรับตัวดีขึ้นใน 2H55 ต่อเนื่องไปในปี 2556 ทำให้เรายังคงแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 67.50 บาท
       รายงานกำไรสุทธิ 851 ล้านบาท : PTTGC รายงานผลประกอบการ 2Q55 ออกมามีกำไรสุทธิ 851 ล้านบาท ลดจาก 8,574 ล้านบาท ใน 2Q54 และ 9,852 ล้านบาทใน 1Q55 ใกล้เคียงกับที่คาด ผลประกอบการที่อ่อนตัวลงเป็นไปในทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรมโรงกลั่นที่ได้รับผลกระทบจากขาดทุนสต๊อกน้ำมัน 8.79 เหรียญต่อบาร์เรลหรือ 6,187 ล้านบาท (รวมการปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือ 1,114 ล้านบาท)  อย่างไรก็ตามกำไรจากธุรกิจโอเลฟินส์, EO และโพลีเมอร์จำนวน 4,772 ล้านบาท ยังคงมากพอที่จะทำให้ PTTGC มีรายงานผลประกอบการเป็นบวกได้ใน 2Q55 ธุรกิจอะโรเมติกส์และโรงกลั่นมีผลขาดทุนรวม 4,371 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจอื่นๆ รวมมีกำไร 450 ล้านบาท
       หากไม่รวมสต๊อกผลประกอบการดีขึ้น QoQ : หากไม่รวมผลจากสต๊อกน้ำมัน PTTGC มีผลประกอบการที่เพิ่มขึ้น QoQ จากผลประกอบการของธุรกิจโอเลฟินส์เพิ่มขึ้นตามอัตราการใช้กำลังการผลิตของโอเลฟินส์แครกเกอร์ที่เพิ่มขึ้นเป็น 89% จาก 86% ใน 1Q55 และการใช้ก๊าซฯ เป็นวัตถุดิบเพิ่มขึ้นเป็น 88% จาก 84% ในไตรมาสก่อน ขณะที่ราคา HDPE อยู่ที่ 1,376 เหรียญต่อตัน และส่วนต่างราคา HDPE-แนฟทา อยู่ที่ 482 เหรียญต่อตัน (+8.9% QoQ) ธุรกิจโรงกลั่นมีค่าการกลั่นฐาน (ไม่รวมสต๊อกน้ำมัน) อยู่ที่ 4.32 เหรียญต่อบาร์เรล (+13.7% QoQ) หากรวมผลจาก Hedging และสต๊อก Accounting GRM -3.89 เหรียญต่อบาร์เรล ลดจาก 8.9 เหรียญต่อบาร์เรลใน 1Q55 ส่วนธุรกิจอะโรเมติกส์อ่อนลงตามส่วนต่างราคา PX-คอนเดนเสทที่ 473 เหรียญต่อตัน (-19.1% QoQ) และส่วนต่างราคา BZ-คอนเดนเสทที่ 177 เหรียญต่อตัน (+1.1% QoQ)
       แนวโน้มผลประกอบการ 3Q12 ฟื้นตัว : แม้กำไร 1H55 ที่ 10,704 ล้านบาทจะคิดเป็นเพียง 42.1% ของประมาณการ FY 55 ของเราที่ 25,439 ล้านบาท แต่เรายังคงประมาณการกำไรปี 2555 ของ PTTGC ไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากผลประกอบการ 3Q55 คาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ ตามราคาน้ำมันดิบดูไบที่กลับมายืนสูงกว่า100 เหรียญต่อบาร์เรล และส่วนต่างเบนซีนที่เพิ่มขึ้น
       คงคำแนะนำ ซื้อ จากแนวโน้มผลประกอบการ 2H55 และความชัดเจนเรื่องสูตรราคาก๊าซ :  แม้กำไร 2Q55 จะอ่อนตัวลง แต่ PTTGC ถือว่าโดดเด่นกว่าผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจน้ำมันขั้นปลายอื่นที่รายงานผลขาดทุน เราคาดเงินปันผล 1H55 ที่ 1.00 บาทต่อหุ้นคิดเป็นผลตอบแทน 1.65% แนวโน้มผลประกอบการที่คาดจะปรับตัวดีขึ้น 3Q55 ตามราคาน้ำมันและการประกาศปรับสูตรราคาในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา แม้จะมีผลต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่กลับทำให้ความกังวลจากความไม่แน่นอนในประเด็นดังกล่าวหมดไป แนวโน้มส่วนต่างราคาปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์คาดจะปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปต่อเนื่องไปในปี 2556 และ valuation ที่ไม่แพง PER55 ที่ 10.8 เท่า และ PBV55 1.4 เท่า คงแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 67.50 บาท (อ้างอิง PBV12 ที่ 1.55x)
-----------------------------------------------------------------------
อังคาร 31 ก.ค.2555--PTTGC :
ที่มา : Hot Spot Note : บล.เคทีบี (ประเทศไทย)

PTTGC : ปรับสูตรราคาก๊าซวัตถุดิบ
Story :

     จากการประชุมนักวิเคราะห์วันที่ 30 ก.ค. 2555 ได้ข้อสรุปว่า PTTGC และ PTT มีข้อตกลงปรับสูตรราคาก๊าซ ซึ่งจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2555 โดยยังคงอ้างอิงหลักการเดิม คืออัตราผลตอบแทนโครงการ (IRR) ที่เท่ากันระหว่าง PTTGC และ PTT โดยการปรับเปลี่ยนหลักเกิดจากราคาน้ำมันดิบในปัจจุบันออกนอกกรอบช่วงของราคาน้ำมันดิบดูไบที่อ้างอิงไว้เดิมในปี 2551 ที่ 40-80 USD/bbl และไม่มีแนวโน้มที่จะกลับมาอยู่ในกรอบเดิม จึงเปลี่ยนสูตรราคาโดยมีกรอบราคาน้ำมันดิบดูไบใหม่ที่ 70-130 USD/bbl และมีกรอบส่วนต่างราคา HDPE-Naphtha ที่ 450-600 USD/ton โดยหากราคาของน้ำมันดิบดูไบหรือส่วนต่างราคา HDPE-Naphtha ออกจากกรอบเป็นระยะเวลานานเพราะอุปสงค์และอุปทานที่เปลี่ยนแปลงไปก็จะมีการทบทวนสูตรราคาก๊าซอีกครั้ง นอกจากนี้ การปรับสูตรราคาก๊าซในครั้งนี้ได้นำปัจจัยการลงทุนและค่าเสียโอกาสของทั้ง PTTGC และ PTT มาทบทวนใหม่จากเดิมที่เคยมีการคำนวนการลงทุนถึงปี 2551 อีกด้วย ผลกระทบจากการปรับสูตรราคาส่งผลให้ราคาก๊าซวัตถุดิบเพิ่มขึ้นจากเดิมเฉลี่ย 40 USD/ton จากปัจจุบันราคาก๊าซเดิมอยู่ที่ระดับ 500 USD/ton หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8  สำหรับสูตรราคาก๊าซจะยังคงระยะเวลาเดิมในสัญญาที่สิ้นสุดปี 2558
     อย่างไรก็ตาม PTT จะสนับสนุนด้านปริมาณก๊าซที่เพียงพอให้กับ PTTGC สำหรับการ Debottleneck Cracker ซึ่งอยู่ระหว่างการทำ Feasibility study ซึ่งมีแผนเสร็จสิ้นการศึกษาในปลายปีนี้ และจะสนับสนุนก๊าซวัตถุดิบให้แก่ PTTGC ในระยะยาวเพื่อให้ PTTGC มีศักยภาพในการเป็น Chemicals Flagship
Comment :
     ในมุมมองของเรา การปรับสูตรราคาส่งผลให้ PTTGC มีต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในระยะสั้นเรายังไม่เห็นผลประโยชน์จาก PTT ที่ชัดเจนมาชดเชยกำไรที่เราคาดไว้เดิม การ Debottleneck Cracker ต้องใช้ระยะเวลาก่อสร้างและการศึกษาราว 3 ปี เราจึงปรับประมาณการณ์ในปี 55 และ 56 ลงจากเดิม โดยในปี 55 ปรับลดจากกำไรสุทธิ ที่ระดับ  32,119 ล้านบาท มาสู่ระดับ 30,654 ล้านบาท และ ปี 56 กำไรสุทธิ ที่ระดับ  34,931 ล้านบาท มาสู่ระดับ 32,860 ล้านบาท ตามลำดับ เราปรับราคาที่เหมาะสมของ PTTGC ในปี 55 เท่ากับ 81.50 บาท (อิง P/E 12x) เมื่อพิจารณาจากราคาหุ้นล่าสุด ( 58.75 บาท ) PTTGC ยังมี Upside potential 38.72% และมี Dividend yield ประมาณ 3.47% ในปี 2555 ดังนั้น เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ"
-----------------------------------------------------------------------

พุธ 25 เม.ย.2555--PTTGC :
ที่มา : DAILY STOCK : บล.เกียรตินาคิน

PTTGC
(PTT Global Chemical PCL.)
Sector: Petrochemicals & Chemicals 
คำแนะนำ              ถือ
Fair Value'55 (Bt)   70.00
Closed Price (Bt)    70.00
Upside Gain          0.00%
Dividend Yield 55F   5.36%
CGR 2011      
Business Description
       เกิดจากการควบบริษัทระหว่าง PTTCH และ PTTAR โดยได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทขึ้นเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 54 เพื่อก้าวขึ้นเป็นแกนนำของธุรกิจเคมีภัณฑ์ (Chemical Flagship) ของกลุ่ม ปตท. ด้วยกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์ รวม 8.2 ล้านตันต่อปี และกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมรวม 280,000 บาร์เรลต่อวัน นับเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นครบวงจร (Integrated Petrochemical and Refining) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและเป็นบริษัทชั้นนำในระดับภูมิภาคอาเซียนทั้งขนาดและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์
       เราคาดกำไรสุทธิ Q1/55 ของ PTTGC จะออกมาเติบโตสูงเกือบ 4 เท่าตัวจากไตรมาสก่อนหน้าเป็น 9,818 ล้านบาท จากการฟื้นตัวของ Spread Margin ในกลุ่มปิโตรเคมี และ Stock Gain ที่เพิ่มขึ้นตามแนวโน้มราคาน้ำมันดิบ แต่ยังคงลดลง 12% yoy เนื่องจาก Q1/54 ถือว่าเป็น Peak Cycle ของธุรกิจปิโตรเลียมและปิโตรเคมี ทั้งนี้ Stock Gain และการรับรู้กำไรพิเศษมีสัดส่วนมากถึง 23% หากไม่รวมรายการดงกล่าวกำไรจากการดำเนินงานจะอยู่ที่ 7,545 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 151% qoq แต่ลดลง 14% yoy และคิดเป็น 21% ของกำไรจากการดำเนินงานปกติที่เราคาดในปี 2555 เรายังคงแนะนำ "ถือ" แม้ว่าราคาหุ้นจะเต็มมูลค่าเป้าหมายเนื่องจากเรามองว่าระดับ Spread Margin ของกลุ่มปิโตรเคมี ณ ปัจจุบันอยู่ในระดับใกล้จุดต่ำสุดแต่ยังอยู่ในจุดที่รอการประเมินสถานการณ์ที่ชัดเจน โดยหาก Spread Margin ของกลุ่มปิโตรเคมีเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้มีนัยสำคัญในช่วงครึ่งปีหลัง เราอาจปรับประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายของ PTTGC เพิ่ม แต่หากการฟื้นตัวไม่มีนัยสำคัญเราจะปรับลดคำแนะนำลดลง
Q1/55 ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี และ Stock Gain
       คาดกำไรสุทธิ 1Q55 อยู่ที่ 9,818 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 364.6%qoq แต่ยังคงลดลง 12%yoy การฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับ 4Q54 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นของโรงกลั่น และโรงงาน Olefins ขณะที่โรงงาน Aromatics มีกำลังการผลิตลดลงจากการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนฯ ทำให้กำลังการผลิตลดลงเหลือ 73% จาก 1Q54 ที่ระดับ 90%
       กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นคาดว่าจะมีค่าการกลั่นอยู่ที่ 5.2 เหรียญต่อบาร์เรล ใกล้เคียง 4Q54 ที่ผ่านมา แต่ยังคงต่ำกว่า 1Q54 ที่มีค่าการกลั่นที่สูงถึง 7 เหรียญต่อบาร์เรล ส่วนหนึ่งมาจาก GRM ของกลุ่มปิโตรเลียมขั้นกลาง (Middle Distillates) หลังสภาพอากาศในยุโรปและสหรัฐฯ หนาวน้อยกว่าที่คาด ทำให้ปริมาณสำรองปิโตรเลียมขั้นกลางยังคงอยู่ในระดับสูงหลังหมดช่วงฤดูหนาว
       ธุรกิจปิโตรเคมีมี spread ที่อ่อนตัวลดลงทั้งกลุ่ม Aromatics และ Olefins เป็นผลมาจากทั้งภาพของ Supply ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้ง Demand ที่ยังมีแรงกดดันจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว แต่ PTTGC ยังมีจุดแข็งจากการเป็น Gas Base โดยเฉพาะปิโตรเคมีจากกลุ่ม Olefins (PTTCH เดิม) ซึ่งมีสัดส่วนการใช้ก๊าซฯ ในการผลิตใน 1Q55 สูงถึง 82% ในการผลิต ทำให้ต้นทุนการผลิตไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ยังได้ประโยชน์จากราคาผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น (Cost push) ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ
       ราคาน้ำมันดิบ ณ สิ้น 1Q55 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 16 เหรียญต่อบาร์เรล มาปิดที่ 122.2 เหรียญต่อบาร์เรล ในเดือน มี.ค. 55 ทำให้เราคาดว่าบริษัทจะมี Stock gain กว่า 4.1 เหรียญต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตามหากพิจารณาเฉพาะกำไรจากการดำเนินงานปกติ (ไม่รวม Stock Gain และรายการพิเศษ) ใน 1Q55 อยู่ที่ 7,545 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 151.6%qoq แต่ลดลง 14%yoy และคิดเป็น 20.7% ของกำไรจากการดำเนินงานปกติที่เราคาดหมายไว้ในปี 2555
คาดกำไรจากการดำเนินงาน 2Q55 ทรงตัว แต่กำไรสุทธิอ่อนตัวจาก Stock Gain ที่ลดลง
       คาดกำไรสุทธิ 2Q55 อ่อนตัว จาก Stock gain ที่ลดลง หลังจากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบใน 1Q55 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 16 เหรียญต่อบาร์เรล จากความกังวลที่มีต่ออุปทาน รวมทั้งสถานการณ์ในประเทศอิหร่าน เป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันดิบ อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลง หลังความกังวลด้านอุปทานเริ่มลดลง ขณะที่ภาพรวม Demand ยังคงมีปัจจัยลบจากภาพรวมเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมทั้ง Inventory ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง จะเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันดิบ
       ขณะที่กำไรจากการดำเนินงาน จะยังมีแนวโน้มทรงตัวจาก 1Q55 ที่เราคาดว่าบริษัทจะมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 7,545 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 151.6%qoq แต่ลดลง 14%yoy) จากการฟื้นตัวของอัตราการใช้กำลังการผลิต หลัง 1Q55 บริษัทหยุดซ่อมโรงงาน Aromatics และโรงงาน Olefins I4-2 (ตามแผน) เพียงพอชดเชย Spread Marงเgin (Qtd) ในกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีที่ยังคงอ่อนตัวลดลงเล็กน้อย ขณะที่ค่าการกลั่นของกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นเริ่มฟื้นตัวจาก GRM ของกลุ่มปิโตรเลียมขั้นต้น (น้ำมันเบนซินเป็นผลิตภัณฑ์หลัก) จาก Driving Season ในสหรัฐที่กำลังจะเริ่มในเดือน พ.ค. 55
ยังคงแนะนำ "ถือ" รอการฟื้นตัวของผลประกอบการใน 2H55
       เชื่อว่าส่วนต่างราคาปิโตรเคมีปัจจุบันสะท้อน การปรับเพิ่มของต้นทุนการผลิตตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ และความกังวลที่มีต่อ Demand ตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ยังคงอ่อนแอทั้งจากปัญหาหนี้ในยุโรป และการที่รัฐบาลจีนออกมาปรับลด GDP Growth ลง ไปแล้ว
       เรามองว่า Spread Margin ณ ปัจจุบันน่าจะใกล้ถึงจุดต่ำสุด เนื่องจากการอ่อนตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาได้เพิ่มแรงกดดันต่อผู้ผลิตจนนำไปสู่การปรับลดอัตราการใช้กำลังการผลิต โดยเฉพาะในกลุ่ม Naphtha Cracker เนื่องจาก Spread Margin เริ่มเข้าใกล้จุดคุ้มทุน ขณะที่จุดแข็งของ PTTGC ยังคงอยู่ที่ต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ Olefins (PTTCH เดิม) ที่ใช้ก๊าซฯ เป็นวัตถุดิบในการผลิตทำให้มีแรงกดดันน้อยกว่ากลุ่มผู้ผลิตจาก Naphtha Cracker
       แม้ราคาหุ้นจะเต็มมูลค่าเป้าหมาย แต่เรายังคงแนะนำ "ถือ" เนื่องจากมองว่าปัจจุบันยังคงอยู่ในจุดที่ควรรอการประเมินสถานการณ์ โดยหาก Spread Margin ของกลุ่มปิโตรเคมีเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้มีนัยสำคัญใน 2H55 PTTGC มีโอกาสได้รับการปรับประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้น ขณะที่หากการฟื้นตัวไม่มีนัยสำคัญมากพอเราจะปรับลดคำแนะนำลดลง
-----------------------------------------------------------------------