KTB : ธนาคาร จำกัด (มหาชน)
หมวดธุรกิจ : ธุรกิจการเงิน  www.ktb.co.th
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
-----------------------------------------------------------------------
ศุกร์ 24 ส.ค.2555--KTB :
ที่มา : Analyst Comment : บล.เกียรตินาคิน

KTB  สินเชื่อเติบโตต่อเนื่องในเดือน ก.ค.
มูลค่าเหมาะสม    20.00 บาท ราคาล่าสุด (23 ส.ค. 2555)  17.80 บาท
คำแนะนำ   ซื้อ
ประเด็นสำคัญ    

    * KTB รายงานแบบแสดงสินทรัพย์และหนี้สินเดือน ก.ค. มีสินเชื่อเติบโตต่อเนื่องอีก 0.9% MoM และเติบโตจากสิ้นปี 2554 แล้ว 6.3%YTD
ความเห็นนักวิเคราะห์   
    * สินเชื่อที่เพิ่มขึ้นน่าจะมาจากลูกค้ารายใหญ่เป็นหลัก โดยในเดือนนี้ KTB มีสินเชื่อเพิ่มขึ้น 1.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเราคาดว่าจะมาจากสินเชื่อรายใหญ่เป็นหลัก หลังจาก KTB มีนโยบายที่จะปล่อยสินเชื่อกลุ่มอื่นนอกจากสินเชื่อภาครัฐเพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย
    * เงินฝากเพิ่มขึ้น KTB มีเงินฝากเพิ่มขึ้นในเดือน ก.ค. 3.6% MoM และ 27.2% YTD ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่ (BBL เพิ่มขึ้น 1% MoM และ 7.3 %YTD KBANK เพิ่มขึ้น 3.5% MoM และ 10.5%YTD และ SCB เพิ่มขึ้น 1.6% MoM และ 22%YTD)
    * คาดไตรมาส 3/55 รายได้ KTB เพิ่มขึ้น แต่ยังมีความเสี่ยงจากการตั้งสำรอง คาดว่ารายได้ของ KTB ในไตรมาส 3/55 รายได้ของ KTB มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากสินเชื่อที่คาดว่าขยายตัวต่อเนื่อง และรายได้พิเศษจากเงินปันผลรับจากกองทุนวายุภักษ์ แต่ KTB ยังมีความเสี่ยงจากการตั้งสำรองเพิ่มเติม เนื่องจาก KTB นั้นเป็นธนาคารที่มีสัดส่วนสำรองต่อ NPL ต่ำ โดยมีอยู่เพียง 70% จากค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 121% และมีเพียง TCAP ธนาคารเดียวที่มีสัดส่วนนี้ต่ำกว่า KTB
    * ใกล้ถึงวัน XD XR แนะนำให้ใช้สิทธิ์จองซื้อหุ้น ในวันที่ 28 ก.ย. นี้จะเป็นวันขึ้นเครื่องหมาย XD สำหรับเงินปันผลระหว่างกาล ที่ KTB ประกาศจ่าย 0.36 บาท/หุ้น คิดเป็น Div. yield 2% และขึ้น XR สำหรับหุ้นเพิ่มทุน เรายังคงแนะนำให้ผู้ที่ถือหุ้น KTB อยู่ใช้สิทธิจองซื้อหุ้น เนื่องจากเรามองว่า KTB มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในอนาคตเนื่องจากจะได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนของรัฐบาลและการเพิ่มทุนครั้งนี้จะทำให้เงินกองทุนของ KTB แข็งแกร่งขึ้นด้วย
    * คงราคาเหมาะสม 20 บาท และแนะนำ "ซื้อ" เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2555 ของ KTB ไว้เหมือนเดิมที่ 26,086 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.87 บาท โดยยังสามารถคาดหวังการเติบโตจาก KTB ได้และถึงแม้ว่าการเพิ่มทุนครั้งนี้จะทำให้ KTB มีจำนวนหุ้นเพิ่มมากขึ้น แต่เรายังคงคาดว่า KTB จะยังคงเป็นหุ้นที่มีระดับเงินปันผลตอบแทนสูงอยู่ โดยทั้งปี 2555 เราคาดว่า KTB จะมีการจ่ายปันผล 0.76 บาท/หุ้น คิดเป็น Div. yield 4.3% เราให้ราคาเหมาะสมหลังการเพิ่มทุนไว้ที่ 20 บาท ยังมี Upside gain อยู่ 12% เราจึงยังคงแนะนำ "ซื้อ"
-----------------------------------------------------------------------

ศุกร์ 10 ส.ค.2555--KTB :
ที่มา : DAILY STOCK : บล.เกียรตินาคิน

KTB (Krung Thai Bank PCL.)
Sector  :  Banking
คำแนะนำ              ซื้อ
Fair Value (Bt)     20.00
Closed Price (Bt)   17.00
Up-side gain        17.65%
Dividend Yield 55F  4.47%
     KTB เพิ่มทุน 2,796 ล้านหุ้น ขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน 4 : 1 ราคา 12.60 บาท/หุ้น จะเกิด Dilution effect 20% โดยวัตถุประสงค์การเพิ่มทุนเพื่อรองรับการขยายธุรกิจ และประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.36 บาท ภายหลังการเพิ่มทุนเราคาดว่าจะทำให้เงินกองทุนของ KTB เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคาร จากเดิมที่ KTB เป็นธนาคารที่มีระดับเงินกองทุนต่ำที่สุด เราแนะนำให้ผู้ที่ถือหุ้น KTB จองซื้อหุ้นเพิ่มทุน เนื่องจากมองว่า KTB ยังได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนต่างๆ ของรัฐบาล มูลค่าเหมาะสม 20 บาท ยังมี Upside gain 18% แนะนำ "ซื้อ"
เพิ่มทุน 2,796 ล้านหุ้น ขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม 4:1 ราคา 12.60 บาท/หุ้น เกิด Dilution effect 20%
     KTB ประกาศเพิ่มทุนเพื่อนำเงินมาส่งเสริมการเจริญเติบโตทางธุรกิจ เพื่อให้ธนาคารฯสามารถขยายธุรกิจได้อย่างมั่นคงและต่อเนื่อง การเพิ่มทุนครั้งนี้จะทำให้เกิด Dilution effect 20% ขึ้น XR วันที่ 28 ส.ค. 2555
จ่ายปันผลระหว่างกาล 0.36 บาท/หุ้น
     นอกจากการประกาศเพิ่มทุนแล้ว ทาง KTB ยังประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลด้วย โดยจะจ่ายให้กับหุ้นบุริมสิทธิ์ 0.43725 บาท/หุ้น และจ่ายให้กับหุ้นสามัญ 0.36 บาท/หุ้น คิดเป็น Div. yield 2.1% และจะมีการขึ้น XD วันเดียวกับ XR คือวันที่ 28 ส.ค. 2555 จ่ายเงินปันผลในวันที่ 3 ต.ค. 2555
การเพิ่มทุนไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ และจะช่วยให้เงินกองทุนของ KTB เพิ่มขึ้น
     การเพิ่มทุนในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เนื่องจาก KTB มีสินเชื่อขยายตัวค่อนข้างสูง ในครึ่งปีที่ผ่านมามีสินเชื่อเติบโตแล้ว 5.4% YTD ในขณะที่ KTB มีเงินกองทุนค่อนข้างต่ำ โดย KTB เป็นธนาคารที่มีระดับเงินกองทุนต่ำที่สุด มีเงินกองทุนอยู่เพียง 12.9% เป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 7.9% ในขณะที่ค่าเฉลี่ยเงินกองทุนของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 15.7% เป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 อยู่ 11.2% แต่ภายหลังการเพิ่มทุนแล้ว จะทำให้เงินกองทุนของ KTB นั้นเพิ่มขึ้นเป็น 14.7% เป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 อยู่ 9.7%
ผลประกอบการไตรมาส 3/55 มีแนวโน้มเติบโต
     เราคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 3/55 ของ KTB มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากสินเชื่อที่คาดว่าจะเติบโตขึ้น และ KTB จะได้รับรายได้พิเศษจากเงินปันผลของกองทุนวายุภักษ์ ซึ่งน่าจะทำให้ผลประกอบการของ KTB เติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 2/55 ที่มีผลประกอบการสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้
แนะนำ "ซื้อ" มูลค่าเหมาะสม 20 บาท ยังมี Upside gain 18%
     ราคาหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ต่ำกว่าราคาปิดเมื่อวานนี้อยู่ถึง 26% อย่างไรก็ตาม เราแนะนำให้นักลงทุนที่ถือหุ้น KTB อยู่ใช้สิทธิจองซื้อหุ้น เนื่องจากเรามองว่า KTB มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในอนาคตเนื่องจากจะได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนต่างๆ ของรัฐบาล นอกจากนี้แล้วถึงแม้ว่าการเพิ่มทุนครั้งนี้จะทำให้ KTB มีจำนวนหุ้นเพิ่มมากขึ้น แต่เรายังคงคาดว่า KTB จะยังคงเป็นหุ้นที่มีระดับเงินปันผลตอบแทนสูงอยู่ โดยทั้งปี 2555 เราคาดว่า KTB จะมีการจ่ายปันผล 0.76 บาท/หุ้น คิดเป็น Div. yield 4.5% เพื่อให้เหมาะสมกับช่วงเวลาการลงทุน เราจึงปรับไปใช้ราคาเหมาะสมหลังการเพิ่มทุนที่ 20 บาท ยังมี Upside gain อยู่ 18% เราจึงยังคงแนะนำ "ซื้อ"
-----------------------------------------------------------------------

อังคาร 31 ก.ค.2555--KTB :
ที่มา : Analyst Comment : บล.เกียรตินาคิน

KTB  กองทุนฟื้นฟู ฯ อาจจะใช้หุ้น KTB ในการแก้ปัญหากองทุนฟื้นฟู ฯ
ราคาเป้าหมาย 12 เดือน 22.40 บาท ราคาล่าสุด (30 ก.ค. 2555)  16.30 บาท
คำแนะนำ   ซื้อ   นักวิเคราะห์ อดิสรณ์ มุ่งพาลชล  (โทร. 2937)
ประเด็นสำคัญ    
    * ข่าวจาก นสพ.ข่าวหุ้น เช้านี้ อ้างแหล่งข่าวจากกองทุนฟื้นฟู ฯ ว่าอาจจะพิจารณาใช้หุ้น KTB ในการแก้ปัญหาหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟู โดยอาจจะเลือกที่จะขายหุ้นออกไปบางส่วน หรือออกหุ้นกู้โดยใช้หุ้นของ KTB ในการค้ำประกัน
ความเห็นนักวิเคราะห์   
    * ไม่ใช่เรื่องใหม่ หากมีการขายหุ้นน่าจะขายเพียงบางส่วน ไม่กระทบกับ KTB การขายหุ้น KTB ออกไปเป็นหนึ่งทางเลือกในการใช้หนี้กองทุนฟื้นฟูฯ มาตั้งแต่แรก แต่ทางรัฐบาลนั้นยังต้องการใช้ KTB ในการส่งผ่านนโยบายทางการเงินของรัฐบาลไปสู่ระบบเศรษฐกิจ จึงยังไม่มีการขายหุ้นออกมา หากมีการขายจริง เราคาดว่าจะขายออกมาเพียงบางส่วนเท่านั้น โดยอาจขายออกมา 4.07% จากที่ในขณะนี้ถืออยู่ 55.07% เพื่อรักษาสถานะของการเป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมของเราจะทำให้ได้เงินจากการขายหุ้นประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาทแทบไม่มีนัยยะต่อการใช้หนี้จำนวน 1.4 ล้านล้านบาท นอกจากนี้ เรามองว่าการออกหุ้นกู้จะทำให้เสียดอกเบี้ยซึ่งเป็นการก่อหนี้เพื่อชำระหนี้จึงอาจจะไม่เหมาะสมนัก เนื่องจากทางกองทุนฟื้นฟูฯยังต้องรับภาระดอกเบี้ย
    * ไตรมาส 2/55 กำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และ มีแนวโน้มดีขึ้นอีกในไตรมาส 3/55 เนื่องจากเราคาดว่าสินเชื่อของ KTB นั้นจะยังคงเติบโตต่อเนื่องมากขึ้น ทั้งจากสินเชื่อรายใหญ่ และสินเชื่อจากโครงการรัฐที่จะทยอยออกมามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้แล้วในไตรมาส 3/55 KTB จะมีรายได้พิเศษจากกองทุนวายุภักษ์อีกถึงประมาณ 900 ล้านบาทด้วย ทำให้มีความเป็นไปได้ที่ผลประกอบการไตรมาส 3/55 จะดีกว่าไตรมาส 2/55 ที่มีกำไรสุทธิ 7,343 ล้านบาท และเป็นไตรมาสที่ KTB มีผลประกอบการสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง
    * คงประมาณการ คงราคาเหมาะสม 22.40 บาท และยังคงแนะนำ "ซื้อ" เรามองว่าไม่ว่ากองทุนฟื้นฟู ฯ จะเลือกใช้วิธีการใดในการลดหนี้กองทุนฟื้นฟูฯก็จะไม่กระทบกับการดำเนินงานของ KTB โดยเรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2555 ของ KTB ไว้เหมือนเดิมที่ 26,086 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.33 บาท โดยเรามองว่า KTB มีข้อได้เปรียบจากความใกล้ชิดกับรัฐบาลจะทำให้มีสินเชื่อที่เกี่ยวเนื่องกับหน่วยงานรัฐเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งจะทำให้สินเชื่อของ KTB เติบโตต่อเนื่องได้ นอกจากนี้ KTB ยังเป็นธนาคารที่มีระดับเงินปันผลสูง โดยเราคาดว่าปี 2555 KTB จะมีการจ่ายปันผล 0.95 บาท/หุ้น คิดเป็น Div. yield 5.8% ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่ แต่จะไม่มีการจ่ายปันผลระหว่างกาล คงราคาเหมาะสม 22.40 บาท และยังคงแนะนำ "ซื้อ"
-----------------------------------------------------------------------

อังคาร 2 พ.ค.2555--KTB :
ที่มา : วิเคราะห์หุ้นรายวัน : บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง

บมจ. ธนาคารกรุงไทย (KTB)     ซื้อ (unchanged)
ราคาปิด (บาท): 18.00
ราคาเป้าหมาย (บาท):   20.50
ข้อมูลบริษัท
       Description : ธุรกิจธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ โดยมีสาขาอยู่ทั่วภูมิภาคในประเทศไทย และในบางภูมิภาคหลักของโลก
แนวทางการดำเนินธุรกิจยังเป็นไปในทิศทางที่ดี
       ประเด็นการลงทุน :  จากการประชุมนักวิเคราะห์ ผู้บริหารยังคงให้มุมมองเชิงบวกสำหรับการเติบโตของผลการดำเนินงานของ KTB เราคาดกำไรสุทธิทั้งปี 55 ของ KTB เติบโต 32%yoy ขณะที่ความกังวลด้านการเพิ่มทุน เรายังคงมุมมองเดิมว่าจะไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้ ราคาหุ้นยังถูกและ laggard เมื่อเทียบกับ 4 ธนาคารใหญ่ เรายังคงแนะนำ "ซื้อ" KTB ราคาเป้าหมาย 20.50 บาท
       คงเป้าหมายทางการเงินและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ : KTB ยังคงเป้าหมายการขยายตัวของสินเชื่อ 5-7% อย่างไรก็ตามผู้บริหารคาดการขยายตัวของสินเชื่อมีแนวโน้มเติบโตได้สูงกว่าเป้าหมายที่ธนาคารตั้งไว้ (เราคาดสินเชื่อ KTB ปีนี้เติบโต 11.5%) โดยในด้านกลยุทธ์จะเน้นการเติบโตด้านสินเชื่อ SMEs และสินเชื่อรายย่อย ซึ่งให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าสินเชื่อภาครัฐทั้งในแง่ดอกเบี้ยและรายได้ค่าธรรมเนียม โดย KTB ยังคงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อค่าธรรมเนียมที่ 15% ทำให้เรายังคงประมาณการกำไรทั้งปีของ KTB ไว้ที่ 2.25 หมื่นล้านบาท เติบโต 32%yoy ผลักดันโดยการขยายตัวของสินเชื่อและรายได้ค่าธรรมเนียม รวมถึงการลดลงของค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองและอัตราภาษีนิติบุคคล แม้คาดว่า NIM จะปรับตัวลดลงในปีนี้จากการแข่งขันและการขึ้นค่าธรรมเนียมเงินฝากและตั๋ว B/E
       คาดกำไร 2Q55 ทรงตัวถึงดีขึ้นเล็กน้อยจาก 1Q55 : ในเบื้องต้นเราคาดกำไร 2Q55 ของ KTB จะอยู่ที่ระดับ 6.4-6.5 พันล้านบาท ทรงตัวถึงปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจาก 1Q55 โดยคาดการขยายตัวของสินเชื่อยังคงดีต่อเนื่อง และรายได้ค่าธรรมเนียมคาดเติบโตดีขึ้นจาก 1Q55 อย่างไรก็ตาม NIM คาดหดตัวลง จากผลกระทบของการขึ้นค่าธรรมเนียมเงินฝาก (KTB ยังไม่ได้มีการบันทึกต้นทุนส่วนเพิ่มดังกล่าวใน 1Q55)
       คงนโยบายสำรองปกติที่ 500 ล้านบาท/เดือน : ประเด็นที่ ธปท. ต้องการให้ธนาคารพาณิชย์มีสำรองส่วนเกินขั้นต่ำเพิ่มขึ้น (Required excess reserve) จากระดับปัจจุบัน ทาง KTB ยืนยันว่า KTB มีสำรองส่วนเกินสูงกว่าขั้นต่ำที่ทาง ธปท. ต้องการอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องตั้งสำรองเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม เราคาดว่า KTB จะมีการตั้งสำรองพิเศษในช่วง 4Q55 เหมือนหลายๆปีที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มระดับสำรองให้สูงขึ้นใกล้เคียงกับธนาคารอื่นๆ
       ยังไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน : ประเด็นเรื่องการเพิ่มทุนยังคงความกังวลสำหรับ KTB อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามผู้บริหารยังคงยืนยันว่า ณ ระดับ Tier-1 ปัจจุบัน ยังคงเพียงพอสำหรับการขยายตัวของธุรกิจ โดยไม่มีความจำเป็นที่ต้องเพิ่มทุน ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของเราที่คาดว่าการเพิ่มทุนของ KTB จะไม่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตามผู้บริหารไม่ได้ปฎิเสธอย่างเต็มตัวว่าในอนาคตจะไม่มีการเพิ่มทุน โดยกล่าวว่าการเพิ่มทุนอาจจะเป็นทางเลือกในอนาคต ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมหลายประการ โดย ธปท. ยังไม่มีการระบุถึงระยะเวลาและแนวทางการบังคับใช้เกณฑ์ Basel III อย่างเป็นทางการแต่ KTB ได้มีการศึกษาผลกระทบมาโดยตลอดและไม่มีปัญหาสำหรับการใช้เกณฑ์ Basel III ใหม่แต่อย่างใดยังคงเลือกเป็น top pick ใน 4 ธนาคารใหญ่ : เรายังคงมุมมองเชิงบวกสำหรับการเติบโตของผลการดำเนินงาน KTB ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันค่อนข้าง laggard และมี Valuation ถูกที่สุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ซื้อขายที่ระดับเพียง 8.7 เท่า PER และ 1.35 เท่า PBV เทียบกับ ROE สูงถึง 16.4% และให้ dividend yield สูง 4-5% เราแนะนำ "ซื้อ" KTB เป็น top pick ของกลุ่ม ราคาเป้าหมาย 20.5 บาท
-----------------------------------------------------------------------

อังคาร 24 เม.ย.2555--KTB :
ที่มา : COMPANY NOTE : บล.โกลเบล็ก

SECTOR: BANK                  ราคาปิด 17.20 บาท
Krung Thai Bank (KTB)         แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 23 บาท 
แจ้งกำไรสุทธิ 1Q55 เติบโต 16%YoY
   * กำไรสุทธิ 1Q55 เติบโต 16%YoY
   * สินเชื่อไตรมาสแรกเติบโตดีมาก คุณภาพสินทรัพย์ยังดี
   * ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 55 เพิ่มขึ้น 4%
   * คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 23 บาท
ประเด็นสำคัญในการลงทุน :
   * กำไรสุทธิ 1Q55 เติบโต 16%YoY : ประกาศกำไรสุทธิในช่วง 1Q55 เท่ากับ 6.4 พันล้านบาทเติบโต 16%YoY และดีกว่าคาดการณ์ของฝ่ายวิจัย 10% เนื่องจาก 1) การเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 21% ตามการเติบโตของสินเชื่อที่ดีกว่าคาดและส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่ปรับดีขึ้นเป็น 2.8% จาก ระดับ 2.7% ในช่วง 1Q54 2) การเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิ 6% ตามการเติบโตของสินเชื่อ
   * สินเชื่อไตรมาสแรกเติบโตดีมาก คุณภาพสินทรัพย์ยังดี: แม้ว่าการเติบโตของสินเชื่อในช่วง 2 เดือนแรกปี 55 จะแผ่วลงจากการชำระคืนหนี้จากภาครัฐ แต่จนถึงสิ้นเดือนมี.ค.55 มียอดสินเชื่อคงค้าง 1.5 ล้านล้านบาทเติบโตถึง 4.6% จากปลายปี 54 ซึ่งถือว่าดีมากและจากที่คาดว่าการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 255 ที่น่าจะเร็วขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณจะส่งผลให้การเติบโตของสินเชื่อทั้งปีของ KTB น่าจะเกินเป้าที่ระดับ 7% ทั้งนี้ คุณภาพของสินทรัพย์ยังดีเห็นได้จากสัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ต่อสินเชื่อรวมลดลงเหลือ 3.8% จากระดับ 4% ในปลายปี 54โดยธนาคารได้กลับมาตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในระดับปกติเดือนละ 500 ล้านบาท
   * ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 55 เพิ่มขึ้น 4%: กำไรสุทธิในช่วง 1Q55 ที่ประกาศออกมาคิดเป็น 28% ของประมาณการทั้งปีที่ 2.3 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้จากการปรับเพิ่มสมมติฐานการเติบโตของสินเชื่อจาก 9% เป็น 11% และการปรับลดสมมติฐานค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองหนี้สูญลดลงจากเดิม 35% ส่งผลให้ประมาณการกำไรสุทธิใหม่สำหรับปี 55 เพิ่มขึ้น 4% เป็น 2.4 หมื่นล้านบาทซึ่งเติบโต 41% จากปี 54
   * คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 23 บาท :  ฝ่ายวิจัยยังมีมุมมองเชิงบวกต่อปัจจัยพื้นฐานของ KTB ในการเป็นแบงก์รัฐที่ได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ช่วยหนุนให้สินเชื่อมีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่อง ขณะที่ฐานะเงินกองทุนยังแข็งแกร่งโดยมีเงินกองทุนรวม 13.08% และเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Tier I) เท่ากับ 8.3%  ทั้งนี้ราคาเหมาะสมซึ่งอิง Prospect P/BV ที่ 1.9 เท่า, Ke ที่ 11% เท่ากับ 23 บาทยังสูงกว่าราคาปิดล่าสุด ทั้งนี้ KTB เป็นหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงที่สุดในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ที่ราว 4% ทำให้เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ"
-----------------------------------------------------------------------

อังคาร 24 เม.ย.2555--KTB :
ที่มา : Results Comment : บล.ธนชาต

Krung Thai Bank  (KTB TB) - BUY, Price Bt17.20, TP Bt20.00
กำไรไตรมาส 1Q12 แข็งแกร่ง

   * KTB รายงานกำไรไตรมาส 1Q12 แข็งแกร่ง 6.38 พันลบ. เพิ่มขึ้น 16% y-y และ 708% q-q ดีกว่าประมาณการของเราและตลาด กำไรไตรมาส 1Q12 เป็นสัดส่วน 28% ของประมาณการทั้งปีของเรา
   * ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโต y-y คือการเติบโตของสินเชื่อ รายได้ค่าธรรมเนียมสูงขึ้น และค่าใช้จ่ายภาษีนิติบุคคลลดลง การตั้งสำรองที่ลดลงอย่างมากเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้กำไรก้าวกระโดด q-q
   * การเติบโตของสินเชื่ออยู่ในระดับที่ดี 5% q-q เพียงพอชดเชยการหดตัวลงของ NIM 9bp จากไตรมาสก่อนหน้า
   * การที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเป็นผลมาจากได้รับเงินปันผลจากกองทุนวายุภักษ์ลดลง รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตแข็งแกร่งที่ระดับ 6% y-y และ 7% q-q           
   * อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ปรับตัวดีขึ้น ลดลงเป็น 48.0% จาก 48.3% ในไตรมาส 1Q11 และ 51.8% ในไตรมาส 4Q11
   * NPL สุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.7% q-q แต่อย่างไรก็ตาม อัตราส่วน NPL ลดลงต่อเนื่องเป็น 3.8% จากการขยายตัวของสินเชื่อ
   * เนื่องจากมีการตั้งสำรองพิเศษไว้ใน 2H11 และมีความเสี่ยง NPL ต่ำ KTB ปรับลดการตั้งสำรองลง 80% q-q อัตราส่วน coverage ratio อยู่ที่ 66% ในไตรมาส 1Q12
   * เราเห็น upside ต่อประมาณการทั้งปีเนื่องจากกำไร 1Q12 เป็นสัดส่วน 28% ของประมาณการทั้งปีของเราหลัง NIM อ่อนตัวน้อยกว่าคาด การเติบโตของกำไรแข้งแกร่ง และมี dividend yield สูงเป็นอันดับสองในอุตสาหกรรม เราคงคำแนะนำ KTB "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 20 บาท/หุ้น
-----------------------------------------------------------------------

อังคาร 24 เม.ย.2555--KTB :
ที่มา : วิเคราะห์หุ้นรายวัน : บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง

บมจ. ธนาคารกรุงไทย (KTB)  ซื้อ (unchanged)
ราคาปิด (บาท)     :  17.20
ราคาเป้าหมาย (บาท):  20.50
อีกธนาคารที่กำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์

          ประเด็นการลงทุน : KTB เป็นอีกธนาคารที่ประกาศกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใน 1Q55 โดยกำไรออกมาใกล้เคียงกับที่เราคาดไว้แต่ดีกว่า Consensus คาดเล็กน้อย เราคาดกำไรสุทธิปี 2555 ของ KTB เติบโตสูง 32% ขณะที่ราคาหุ้นยัง laggard และถูกที่สุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ เราแนะนำ "ซื้อ" KTB ราคาเป้าหมาย 20.50 บาท เป็น top pick ของกลุ่มธนาคารใหญ่
          กำไรเป็นไปตามคาด สูงสุดเป็นประวัติการณ์ : KTB รายงานกำไร 1Q55 ที่ 6.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 692%qoq และ 16%yoy ใกล้เคียงกับที่เราคาด แต่ดีกว่า Consensus คาดประมาณ 6% สินเชื่อเติบโตโดดเด่น 4.6%qoq ผลักดันจากการเติบโตในทุกภาคส่วน ขณะที่ NIM หดตัวลง 9bps qoq มาอยู่ที่ 2.85% แต่เกิดจากสภาพคล่องส่วนเกินที่เพิ่มขึ้นเป็นหลักเนื่องจากเงินฝากเพิ่มขึ้นถึง 16%qoq  รายได้อัตราดอกเบี้ยสุทธิเติบโต 3%qoq และ 21%yoy รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโต 7%qoq และ 6%yoy ขณะที่รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเติบโต 23%qoq จากส่วนแบ่งกำไรบริษัทลูกเทียบกับผลขาดทุนในไตรมาสที่ผ่านมา ขณะที่หากเปรียบเทียบกับ 1Q54 รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยหดตัวลง 6%yoy จากเงินปันผลวายุภักษ์ที่ลดลง ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 4%qoq ตามผลของฤดูกาล ส่งผลให้ Cost-to-income ratio ปรับลดลงจาก 53% ในไตรมาสก่อน เหลือ 47% ค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองปรับลดลงสู่ระดับปกติที่ 1.5 พันล้านบาท เทียบกับ 7.5 พันล้านบาทใน 4Q54 ที่มีการตั้งสำรองพิเศษเพิ่มเติม ขณะที่ NPLs ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 3.8% เทียบกับ 4.0% ณ สิ้นปี 54 Tier-1 ratio ปรับลงจาก 8.7% ณ สิ้นปี 54 มาอยู่ที่ 8.3% แต่ยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าเกณฑ์ของ ธปท. ค่อนข้างมาก เรายังคงมุมมองเดิมว่า KTB จะยังไม่มีการเพิ่มทุนในเร็วๆ นี้
          แนวโน้มกำไรยังดี คาดทั้งปีเติบโต 32% : โดยรวมกำไร 1Q54 คิดเป็น 28% ของประมาณการกำไรทั้งปีของเราที่ 2.25 หมื่นล้านบาท แต่เรายังคงประมาณการกำไรทั้งปีของ KTB ไว้ เนื่องจากเราคาดว่า KTB อาจมีการตั้งสำรองพิเศษอีกครั้งในช่วงไตรมาส 4 ของปี สำหรับผลการดำเนินงาน 2Q55 เราคาดกำไรมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่อัตราการเติบโตจะไม่สูงมากนัก โดยเราคาดการขยายตัวของสินเชื่อ KTB ในปีนี้ในระดับ 11.5% และคาดรายได้ค่าธรรมเนียมเติบโต 15.8% ขณะที่ NIM คาดปรับตัวลดลงจากประเด็นการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมเงินฝากและตั๋ว B/E อย่างไรก็ตามการลดลงของค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองและอัตราภาษีนิติบุคคล จะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยผลักดันการเติบโตของกำไรสุทธิในปีนี้ระดับ 32%
          ตัวเลือกที่ดีที่สุดในกลุ่มธนาคารใหญ่ : เรามีมุมมองในเชิงบวกสำหรับผลการดำเนินงานของ KTB ที่มีการเติบโตในระดับสูง ขณะที่ Balance sheet ก็มีความแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้ง NPLs ที่ลดลงและ Coverage ratio ที่เพิ่มขึ้น ประเด็นความกังวลเรื่องการเพิ่มทุน เรายังคงมุมมองเดิมว่าการเพิ่มทุนจะไม่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในบทวิเคราะห์ KTB ฉบับวันที่ 2 เม.ย. 55) ราคาหุ้นปัจจุบันค่อนข้าง laggard เมื่อเทียบกับกลุ่ม ขณะที่ Valuation ถูกที่สุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" KTB เป็นหุ้น Top pick ของกลุ่ม ราคาเป้าหมาย 20.5 บาท

-----------------------------------------------------------------------