PTT : บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
หมวดธุรกิจ : พลังงานและสาธารณูปโภค www.pttplc.com
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
-----------------------------------------------------------------------
ศุกร์ 3 ส.ค.2555--PTT :
ที่มา : วิเคราะห์หุ้นรายวัน : บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง

บมจ. ปตท (PTT)    ซื้อ (Unchanged)
ราคาปิด (บาท)     :  322
ราคาเป้าหมาย (บาท):  392 (จาก 402 บาท)
คาดกำไร 2Q55 แย่สุดในรอบปี
     ประเด็นการลงทุน : แม้คาดผลประกอบการ 2Q55 ของ PTT จะออกมาน่าผิดหวัง แต่ตลาดน่าจะเริ่มมองข้ามไปยังผลประกอบการ 3Q55 ที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น เราคาด PTT ยังคงจ่ายเงินปันผล FY55 ได้ที่ 13 บาทต่อหุ้น (ปันผล 1H12 ที่ 5.00-5.50 บาท) แม้ PTT จะมีภาระที่จะต้องใส่เงินเพิ่มทุนประมาณ 6.4 หมื่นล้านบาทใน PTTEP เรายังคงชอบ PTT จากธุรกิจหลักที่อ้างอิงการเติบโตภายในประเทศ ในระยะยาวความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติภายในประเทศยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องอ้างอิงจากแผนพัฒนาระบบกำลังผลิตไฟฟ้าฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3 ที่เพิ่มสัดส่วนโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซฯ เป็นเชื้อเพลิง ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามและอาจเป็นปัจจัยบวกเร็วๆ นี้ ได้แก่ แนวทางการปรับราคา NGV ที่ทุกๆ 0.50 บาทต่อกก. จะส่งผลบวกกับ PTT ได้ประมาณ 70 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนแนวทางการปรับราคา LPG ภาคครัวเรือนคาดจะมีความชัดเจนมากขึ้นภายในสิ้นปีนี้ แม้จะยังไม่ส่งผลบวกโดยตรงกับ PTT แต่น่าจะส่งผลบวกต่อฐานะของกองทุนน้ำมัน และอาจนำไปสู่การปรับเพิ่มราคา LPG หน้าโรงแยกก๊าซฯ ได้ในที่สุด ยังคงแนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 392 บาท
     คาดกำไร 2Q55 อ่อนตัวแรงจากขาดทุนสต๊อกและรายการพิเศษ : เราคาดผลประกอบการ 2Q55 ของ PTT จะมีกำไรสุทธิ 7,825 ล้านบาท (- 75.9% YoY และ -79.1% QoQ) กำไรที่อ่อนตัวลงเป็นผลจากราคาน้ำมันที่อ่อนตัวระหว่างไตรมาส และรายการพิเศษจากการตั้งสำรองกว่า 4,000ล้านบาท รวมถึงการตัดจำหน่ายและผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนของ PTTEP ที่มีภาษีรอตัดบัญชีเพิ่มขึ้นจากค่าเงินบาทที่อ่อนตัว โดย PTTEP รายงานผลประกอบการต่ำกว่าคาด โดยมีกำไรเพียง 7,733 ล้านบาท เราคาด PTT จะรับรู้ส่วนแบ่งจากบริษัทย่อยในธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีไตรมาสนี้ลดลงจาก +10,409 ล้านบาท ใน 2Q54 และ +10,289 ล้านบาท ใน 1Q55 เป็นขาดทุน -4,738 ล้านบาท มีเพียง PTTGC บริษัทเดียวที่ยังรายงานผลประกอบการเป็นบวก
     ธุรกิจหลักอ่อนตัวลงเล็กน้อยตามราคาน้ำมัน : เราคาดผลประกอบการของ PTT (ไม่รวมรายการพิเศษ) จะยังคงแข็งแกร่งแม้ธุรกิจก๊าซฯ จะได้รับผลกระทบบ้างจากราคาผลิตภัณฑ์จากโรงแยกฯ ลดลงตามราคาปิโตรเคมีอ้างอิง แต่ได้รับการชดเชยบางส่วนจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณขายก๊าซจากโรงแยกฯ (1,6 ล้านตัน +8.4% YoY, +9.5% QoQ) และปริมาณขายก๊าซผ่านท่อ (4,507 ล้านลบฟุตต่อวัน +4.1% YoY, +5.2% QoQ) ธุรกิจน้ำมันอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยรวมผลกระทบจากกำไร/ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันอยู่ที่ 0.29 บาทต่อลิตร (+22.2% YoY และ 0.1% QoQ) ด้วยปริมาณขายรวมที่ทรงตัวที่ 21,748 ล้านลิตร (+1.0% YoY, 1.3% QoQ) ธุรกิจถ่านหินคาดจะมีกำไรเพิ่มขึ้นตามปริมาณขายที่เพิ่มเป็น 2.7 ล้านตัน (+9.0% YoY, +35% QoQ) ขณะที่ราคาเฉลี่ยทรงตัวที่ 94.5 เหรีนยญต่อตัน (-0.1% YoY, -0.3% QoQ)
     ปรับประมาณการปี 2555-56 ลง 5.0-10.6% : แม้เราจะคงสมมติฐานราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยที่ 106 เหรียญต่อบาร์เรลในปี 2555 แต่รายการพิเศษจากการตั้งสำรองสินทรัพย์ในต่างประเทศและการปรับประมาณการของบริษัทร่วมในธุรกิจโรงกลั่นที่เราได้ดำเนินการไปแล้วก่อนหน้านี้ ทำให้เราจึงปรับประมาณการของ PTT ลง 10.6% และ 5.0% ในปี 2555-56 เป็น 105,514 และ 116,093 ล้านบาท ราคาเป้าหมายจากวิธี SOTP ลดลงเป็น 392 บาท จาก 402 บาท โดยแนวโน้มผลประกอบการ 3Q55 คาดจะฟื้นตัวหลังไม่มีผลกระทบจากขาดทุนสต๊อกน้ำมัน และการตั้งสำรองจำนวนมาก

-----------------------------------------------------------------------
ศุกร์ 3 ส.ค.2555--PTT :
ที่มา : Trade Flash : บมจ.หลักทรัพย์ ฟิลลิป

ปตท. - PTT คาดกำไรสุทธิ 2Q55 เป็นงวดต่ำสุดของปี
ลักษณะธุรกิจ
     PTT ประกอบธุรกิจก๊าซธรรมชาติครบวงจร น้ำมันและลงทุนต่อเนื่องธุรกิจปิโตรเคมีและโรงกลั่น
     * คาดกำไรสุทธิ 2Q55 ลดลง 74.2% y-y, 77.5% q-q เป็น 8,409 ล้านบาท
     * กำไรที่แย่ลงเนื่องจากกำไรของ PTTEP ที่ปรับลดลง บ.ร่วมมีผลขาดทุน และกำไรของธุรกิจก๊าซลดลงจากต้นทุนที่สูงขึ้น
     * แนะนำ "ซื้อ" ราคาพื้นฐานปี 2555 ที่ 396 บาท
ประเด็นข่าว ?
     ใน 2Q55 ปริมาณก๊าซผ่านท่อ และปริมาณของโรงแยกก๊าซปรับเพิ่มขึ้นทั้ง y-y, q-q ในขณะราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีลดลง และราคาต้นทุนเนื้อก๊าซปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบให้อัตรากำไรลดลง อีกทั้งยังมีขาดทุนจากสต็อคน้ำมัน บ.ร่วม ที่มีผลขาดทุน และบ.ย่อย PTTEP มีกำไรลดลงมากจากค่าใช้จ่ายจากรับรู้ด้อยค่าแหล่งมอนทาร่า
ความเห็น ?
     คาดกำไรสุทธิ 2Q55 เท่ากับ 8,409 ล้านบาท กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 2.83 บาท ลดลง 74.2% y-y, 77.5% q-q กำไรในงวดนี้ปรับตัวลดลงมากเนื่องจาก 1) กำไรของ PTTEP ที่ปรับลดลง 30.8% y-y, 57.7% q-q เนื่องจากมีบันทึกด้อยค่าแหล่งมอนทาร่าจำนวน 3,455 ล้านบาท 2)ธุรกิจก๊าซธรรมชาติแย่ลง เนื่องจากอัตรากำไรที่คาดว่าลดลง ไม่สามารถชดเชยด้วยปริมาณการขายก๊าซผ่านท่อ และโรงแยกก๊าซที่เพิ่มขึ้นได้โดยในงวดนี้มีปริมาณก๊าซผ่านท่อเพิ่มขึ้น 4.1% y-y, 5.2% q-q เป็น 4,507 mmcfd โดยโรงไฟฟ้า EGAT ปรับเพิ่มมากสุด 21.9% y-y แต่ถ้าเทียบ q-q โรงแยกก๊าซรับก๊าซเพิ่มขึ้นมากสุด 9% ส่วนปริมาณการผลิตของโรงแยกก๊าซเพิ่มขึ้น 9.5% y-y, 9.6% q-q เป็น 1.59 ล้านตัน และคาดว่า Margin จะแย่ลงเนื่องจากต้นทุนก๊าซที่ปรับเพิ่มขึ้น 20.9% y-y, 4.4% q-q และขาดทุน NGV ที่เพิ่มขึ้น 91.3% y-y, 23.2% q-q เป็น 4,400 ล้านบาท 3) กลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมีมีผลการดำเนินงานขาดทุน จากงวดเดียวกันปีที่แล้ว และปีที่ผ่านมามีกำไร 4) คาดมีรายการพิเศษขาดทุนประมาณ 4,000 ล้านบาท
คำแนะนำการลงทุน ?
     แนะนำ "ซื้อ" ราคาพื้นฐานปี 2555 ที่ 396 บาท
-----------------------------------------------------------------------

อังคาร 10 ม.ค.2555--PTT :
ที่มา : วิเคราะห์หุ้นรายวัน : บมจ.เคจีไอ

บมจ. ปตท.  ประเด็นหลักจากการเยี่ยมชมบริษัท  ** ซื้อ  
ราคาปัจจุบัน (บ.)      324.00
ราคาเป้าหมาย (บ.)    400.00
Upside (%)          21
สรุปประเด็นสำคัญ และข่าวล่าสุด
    * การที่ PTTEP อาจจะปรับลดเป้าหมายกำลังการผลิตที่ 900 KBOED ซึ่งจะเป็นการลดความเสี่ยงในเรื่องของการเพิ่มทุนลงจะเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญของ PTTEP
    * โครงการส่วนใหญ่ที่ได้รับอนุมัติอยู่ในแผนลงทุน 5 ปี เป็นโครงการที่สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจก๊าซ ในขณะที่งบสำหรับโอกาสการลงทุนใหม่ๆส่วนใหญ่จะเป็นพลังงานสะอาดซึ่งไม่น่าจะสร้างกำไรให้ PTT อย่างเป็นกอบเป็นกำ
    * คงคำแนะนำซื้อเนื่องจากแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่งและราคาหุ้นที่ไม่แพง
    * การเลื่อนการลอยตัวราคา NGV ออกไปจากกำหนดเดิมในวันที่ 16 มกราคม 2555 ถือเป็นความเสี่ยงหลักของราคาหุ้น
ปัจจัยบวกสำคัญคือเป้าหมายการเติบโตที่ไม่สูงเท่าเดิมของ PTTEP
     เราได้ไปเยี่ยมชมบริษัท PTT เมื่อวันศุกร์และได้พบกับผู้บริหารเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับแผนลงทุน 5 ปี และธุรกิจ LNG ซึ่งไม่มีประเด็นอะไรที่แปลกใหม่ในจากการเยี่ยมชมบริษัทรอบนี้ ในมุมมองของเราประเด็นบวกที่สำคัญจากการพูดคุยกับบริหารได้แก่การที่ PTTEP's (PTTE.BK, PTTEP TB)* อาจจะปรับลดเป้าหมายการขยายกำลังการผลิตจาก 900KBOED ในปี 2563 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่อิงจาก 30% ของปริมาณการบริโภคพลังงานที่คาดไว้สำหรับปี 2563 การปรับลดเป้าหมายดังกล่าวลงเป็นผลมาจากการเพิ่มสัดส่วนของถ่านหินและพื้นที่ปลูก biofuels ในส่วนผสมของพลังงานซึ่งจะช่วยลดภาระของ PTTEP ในการสนองความต้องการในด้านพลังงานของประเทศ ซึ่งถือเป็นประเด็นบวกของ PTTEP เพราะจะเป็นการลดความเสี่ยงในการที่จะต้องเพิ่มทุน และเป็นไปตามการคาดการของเรา (ดูรายงานของ KGI ฉบับวันที่ 14 ธันวาคม 2554 "PTTEP: ความเสี่ยงเรื่องการเพิ่มทุนลดลง") เราคงคำแนะนำซื้อ PTTEP โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 200 บาทต่อหุ้น
แผนลงทุน 5 ปี ฉบับใหม่ (2555-2559) จากงบลงทุนทั้งหมด 3.58 แสนล้านบาท
     i)   61% จะเป็นการลงทุนในประเทศ และ อีก 39% เป็นการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งแสดงว่า PTT ยังคงมุ่งที่จะให้ประเทศไทยเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัท
     ii)  50% ของงบลงทุนถูกจัดสรรไว้สำหรับการลงทุนใน JV และบริษัทลูกที่บริษัทถือหุ้น 100% (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาด ในขณะที่ 33% ถูกจัดสรรไว้เพื่อการลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติ
     iii) 51% ของงบถูกจัดสรรไว้สำหรับโรงการที่ได้รับการอนุมัติแล้วหรือกำลังดำเนินการอยู่ในขณะที่อีก 49% จะเป็นการเตรียมไว้สำหรับโอกาสการลงทุนใหม่ๆ โครงการส่วนใหญ่ที่ผ่านการอนุมัติแล้วอยู่ในธูรกิจก๊าซธรรมชาติ ซึ่งรวมถึงท่อส่งก๊าซเส้นใหม่ และ LNG เฟส II ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้กำไรจากธุรกิจหลักของบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง

เพิ่มขึ้นจากแผนฉบับก่อน 9% (2554-2558)
     งบลงทุนในแผน 5 ปี ฉบับใหม่นี้สูงขึ้นจากฉบับก่อน 9% โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของการลงทุนในธุรกิจน้ำมันมากที่สุด
     ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ PTT มีแผนที่จะขยาย Terminal สำหรับรับ LPG ตามการร้องขอของรัฐบาลเพื่อตอบสนองต่อความต้องการใช้ LPG ที่สูงขึ้น ซึ่งแผนดังกล่าวนี้ยังคงอยู่ในระหว่างการเจรจากับภาครัฐ นอกจากนี้ PTT ยังมีเป้าหมายที่จะขยายสถานีบริการน้ำมันในภูมิภาคเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับ Asian Economic Community (AEC) ในปี 2558
     เราคงคำแนะนำซื้อ PTT โดยให้ราคาเป้าหมายคำนวณโดยวิธี SOTP ที่ 400 บาท จากการที่คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตของ EPS ในปี 2555 สูงถึง 12% จากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของความต้องการใช้น้ำมันและก๊าซ และราคาหุ้นที่ไม่แพงซึ่งอยู่ที่ 9.6 เท่าของ PE คิดเป็น discount อยู่ 9% จากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี เท่านั้น ความเสี่ยงหลักต่อราคาหุ้นอยู่ คือการลอยตัวราคา NGV อาจจะถูกเลื่อนออกไปจากกำหนดเดิมในวันที่ 16 มกราคม 2555 ซึ่งในขณะนี้มีการชุมนุมประท้วงของกลุ่มคนขับแท๊กซี่และรถบรรทุกต่อต้านการลอยตัวดังกล่าวอยู่

-----------------------------------------------------------------------