SPALI : บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
หมวดธุรกิจ : พัฒนาอสังหาริมทรัพย์   www.supalai.com

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
-----------------------------------------------------------------------
พุธ 15 ส.ค.2555--SPALI :
ที่มา : Results Comment : บล.ธนชาต

Supalai Pcl  (SPALI TB) - BUY, Price Bt18.50, TP Bt20.00
Results Comment
กำไร 2Q12 อ่อนแอ สูงกว่าคาดเล็กน้อย
     * SPALI รายงานกำไรไตรมาส 2Q12 อ่อนแอตามคาด แต่สูงกว่าประมาณการ 304 ลบ. ราว 8% ลดลงกว่า 63% y-y แต่เพิ่มขึ้น 15% q-q
     * ปัจจัยสำคัญที่ทำให้กำไรอ่อนตัวลงในไตรมาสนี้คือยอดขายโครงการอสังหาฯ ที่ลดลง 58% y-y (แต่เพิ่มขึ้น 12% q-q) หลังรายได้โครงการคอนโดมิเนียมลดลงเนื่องจากไม่มีโครงการใดเสร็จในไตรมาสนี้ ในขณะที่รายได้ 1Q12 เป็นฐานต่ำ รายได้ 2Q12 เพิ่มขึ้น 10% q-q จากการเติบโตของยอดขายอสังหาฯ ที่เพิ่มขึ้น 12% q-q เป็น 1.68 พันลบ. เนื่องจากยอดขายอสังหาฯ ของบริษัทในเครือเพิ่มขึ้นจาก 97 ลบ. ในไตรมาส 1Q12 เป็น 202 ลบ. ในไตรมาส 2Q12
     * อัตรากำไรขั้นต้นของโครงการอสังหาฯ อยู่ที่ 40.3% ในไตรมาส 2Q12 ลดลงจาก 41.5% ในไตรมาส 2Q11 และ 42.5% ในไตรมาส 1Q12 เนื่องจากสัดส่วนยอดขายโครงการคอนโดมิเนียมลดลง
     * กำไร 1H12 เป็นสัดส่วน 18% ของประมาณการทั้งปี เราคงประมาณการกำไรเดิมเนื่องจากเราคาดกำไร 2H12F จะแข็งแกร่งขึ้น
     * รายได้ 2H12F คาดจะเป็นสัดส่วนมากกว่า 70% ของรายได้ปี 2012F เนื่องจากมีโครงการคอนโดมิเนียมเสร็จ 4 โครงการในเดือน ส.ค.12 และ ก.ย.12 - ศุภาลัยพาร์ค แอท ดาวทาวน์ภูเก็ต (มูลค่า 810 ลบ. 518 ยูนิต ขายแล้ว 90%) ซิตี้โฮม ศรีนครินทร์ (มูลค่า 1.1 พันลบ. 1,100 ยูนิต ขายแล้ว 20%) ศุภาลัยพาร์ค อโศก-รัชดา (มูลค่า 1.4 พันลบ. 544 ยูนิต ขายแล้ว 99%) และศุภาลัยพาร์ค รัชโยธิน (มูลค่า 2.3 พันลบ. 826 ยูนิต ขายแล้ว 98%)
     * เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 20 บาท/หุ้น
     * บริษัทฯ ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.30 บาท/หุ้น วันขึ้นเครื่องหมาย XD 24 ส.ค.และวันจ่ายเงินปันผล 10 ก.ย.
-----------------------------------------------------------------------

จันทร์ 30 ก.ค.2555--SPALI :
ที่มา : Company update : บล.เคทีบี(ประเทศไทย)

บมจ. ศุภาลัย (SPALI)  Hold
Current Price: Bt18.00
Target Price: Bt18.20
    * Presales 2Q55 ชะลอตัว qoq๊.. Backlog 27,800 ล้านบาท
    * ก่อหนี้เพิ่มจากการสะสม Land Bank แต่ฐานะการเงินยังแข็งแกร่ง
    * คงราคาเป้าหมายปี 2556 ที่ 18.20 บาท แนะนำ "ถือ" 
Presales 2Q55 ชะลอตัว qoq
     SPALI มียอดขาย (Presales) ในงวด 2Q55 จำนวน 3,640 ล้านบาท (-35.1% qoq) และ 1H55 จำนวน 9,247 ล้านบาท (คิดเป็น 48.7% ของเป้าหมาย 19,000 ล้านบาทของบริษัท) ขณะที่เป้า Presales 2,000 ล้านบาท ของบริษัทย่อยก็มีโอกาสสูงที่จะทำได้ตามเป้าหมาย (1H55 ทำได้แล้วประมาณ 1,500 ล้านบาท) ทั้งนี้ Presales ใน 2Q55 ส่วนใหญ่มาจากสินค้าประเภทแนวราบ (ทาวเฮ้าส์และบ้านเดี่ยว) ซึ่ง 2Q55 บริษัทเปิดขายคอนโดเพียง 1 โครงการ คือ Supalai Park @ Phuket City มูลค่า 840 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเราคาดว่าบริษัทจะสามารถสร้างยอด Presales ได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากบริษัทยังมีแผนการเปิดขายโครงการใหม่ในช่วง 2H55 แบ่งเป็นแนวราบจำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวม 5,160 ล้านบาท และคอนโด 3 โครงการ มูลค่ารวม 3,750 ล้านบาท ทั้งนี้เราคาดผลประกอบการใน 2Q55 จะทรงตัว qoq เนื่องจากยังไม่มีการรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดใหม่ รายได้ที่รับรู้ส่วนใหญ่จึงมาจากโครงการแนวราบ ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ต่ำกว่าโครงการคอนโด โดยเราคาดรายได้จากการดำเนินงานที่ 1,600 ล้านบาท (+1.4% qoq,   -60.2% yoy) และมีกำไรสุทธิประมาณ 270 ล้านบาท (+2.3% qoq, -67.6% yoy)    
Backlog 27,800 ล้านบาท
     ณ สิ้น 2Q55 SPALI มีมูลค่างานรอการรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 27,836 ล้านบาท ซึ่งมีแผนที่จะรับรู้เป็นรายได้ในช่วงที่เหลือของปี 2555 จำนวน 7,210 ล้านบาท และทยอยรับรู้ในปี 2556-2558 จำนวน 6,036, 8,730 และ 5,861 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งเมื่อรวมกับยอดรับรู้รายได้จากการดำเนินงานใน 1Q55 และ ที่คาดว่าจะรับรู้ใน 2Q55 จะมีมูลค่ารวมประมาณ 76.2% ของประมาณการปี 2555 ของเรา โดย 3Q-4Q55 บริษัทจะมีผลประกอบการที่ดีขึ้น เนื่องจากมีกำหนดการโอนคอนโดหลายโครงการ ได้แก่ Supalai Park อโศก-รัชดา, Supalai Park รัชโยธิน, Supalai Park@ ดาวทาวน์ ภูเก็ต และ City Home ศรีนครินทร์ ขณะที่แรงกดดันจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนค่าก่อสร้าง โดยเฉพาะค่าแรงที่ปรับเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทได้ทยอยปรับเพิ่มราคาขายบ้านขึ้นแล้วประมาณ 5-6% เพื่อรักษาระดับ GPM ให้อยู่ที่ระดับมากกว่า 40% ดังนั้นเราจึงยังคงประมาณการรายได้จากการดำเนินงานและกำไรสุทธิของบริษัทไว้ที่ 13,628 และ 3,016 ล้านบาทตามลำดับ (สมมติฐาน GPM ที่ 40% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ Conservative)
ก่อหนี้เพิ่ม แต่ฐานะการเงินยังแข็งแกร่ง
     เนื่องจากแนวโน้มราคาที่ดินมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่าต่อเนื่อง โดยเฉพาะทำเลสำหรับพัฒนาโครงการคอนโด SPALI จึงมีนโยบายสะสมที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการคอนโดในอนาคต เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของต้นทุนที่ดิน ซึ่งล่าสุดคอนโดที่บริษัทมีแผนจะเปิดขายในปี 2556 บริษัทมีที่ดินอยู่ในกรรมสิทธิ์แล้วจำนวน 3 แห่ง ทั้งนี้แหล่งเงินทุนส่วนใหญ่มาจากการก่อหนี้ ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อส่วนของเจ้าของ (Gearing ratio) ณ สิ้น 2Q55 จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 0.55  เท่า (+,-) [1Q55 อยู่ที่ 0.43 เท่า] อย่างไรก็ตามยังถือว่าเป็นระดับการก่อหนี้ที่ต่ำ โดย Gearing ratio จะลดลงเมื่อมีการรับรู้รายได้จากการโอนคอนโดในช่วง 2H55
ราคาเป้าหมายปี 2556 ที่ 18.20 บาท
     เราคงประมาณการเดิมของ SPALI แต่ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2556 ได้ราคาเป้าหมาย 18.20 บาท (อ้างอิง PE ratio 10 เท่า) ราคาตลาด ณ ปัจจุบันมี Upside เพียง 1.1% แต่มี Dividend Yield อีกประมาณ 4%  จึงแนะนำ "ถือ" และให้ทยอยซื้อสะสมเมื่อราคาหุ้นปรับตัวลดลง
-----------------------------------------------------------------------

จันทร์ 30 ก.ค.2555--SPALI :
ที่มา : Company Focus : บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส

SPALI  คำแนะนำ ซื้อ
ราคาปิด 18.00 บาท     ราคาพื้นฐาน 20.30 บาท
สาระสำคัญจาก NDR

       * ยอดขายต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) แข็งแกร่งมาก เพราะอุปสงค์ในที่อยู่อาศัยได้ฟื้นตัวกลับมาแล้ว แม้แต่ในเขตที่เคยเกิดน้ำท่วม หากพิจารณายอดขายในรอบ 1H55 เติบโตก้าวกระโดด 50% y-o-y เป็น 11.1 พันล้านบาท เนื่องจากประสบความสำเร็จในการเปิดขายโครงการใหม่ 8 แห่ง (คอนโดมิเนียม 3 แห่งและแนวราบ 5 แห่ง) ในปัจจุบันพื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วมได้กลับมาฟื้นตัวได้เป็นอย่างดี นั่นคือยอดขายเป็น 80% เทียบกับก่อนน้ำท่วมแล้ว ทางบริษัทมีความมั่นใจว่าเป้าขายปีนี้ที่ 21 พันล้านบท โดยทางบริษัทจะมีการเปิดขายโครงการใหม่อีก 9 แห่ง (คอนโดมิเนียม 3 แห่งและแนวราบ 6 แห่ง) ในครึ่งหลังปีนี้ มูลค่าขายรวม 8.9 พันล้านบาท นอกจากนี้ทางบริษัทได้มีการซื้อที่ดินไว้อีก 15 แปลง ไว้ล่วงหน้า เพื่อที่จะเปิดขายตั้งแต่ปี 56 เป็นต้นไป
       * ทั้งนี้บริษัทได้ตั้งเป้ารายได้จากการโอนปีนี้ที่ 13.5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนที่จะมากในช่วงปลาย (back-end loaded) แม้ว่ารายได้ 2Q55 มีแนวโน้มอ่อน ก่อนที่จะรายได้จะฟื้นตัวดีขึ้นอย่างก้าวกระโดดใน 2H55 เพราะจะมีคอนโดทั้งหมด 4 โครงการ มูลค่าสูงถึง 5.6 พันล้านบาทจะก่อสร้างแล้วเสร็จ และพร้อมการโอนกรรมสิทธิ์ได้
       * คงคำแนะนำ ซื้อ เราชอบ SPALI ในประเด็นทีมผู้บริหารมีความสามารถสูง การบริหารต้นทุนมีประสิทธิภาพมาก อัตราผลตอบแทนส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) สูงเป็น 25% ด้านงบดุลแข็งแกร่ง การประเมินมูลค่าหุ้นยังน่าสนใจ P/E ปี 55 เป็น 10.6 เท่า (และจะลดลงเป็น 9.5 เท่าในปี 56) ส่วนคาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผลปี 55 เป็น 4.2% (จ่ายปีละ 2 ครั้ง) กำหนดราคาพื้นฐานไว้ที่ 20.30 บาท ซึ่งประเมินด้วย P/E ปี 55 ที่ระดับ 12 เท่า
-----------------------------------------------------------------------

อังคาร 2 พ.ค.2555--SPALI :
ที่มา : Daily Stock : บล.เกียรตินาคิน

คำแนะนำ                  ถือ
Fair Value'55 (Bt)       16.10
Closed Price (Bt)        16.40
Downside Risk            -1.83%
Dividend Yield 55F       4.6%
        เราคาดว่าผลประกอบการใน Q1/55 SPALI จะมีกำไรสุทธิปรับลดทั้งรายไตรมาสและรายปีที่ 256 ล้านบาท สาเหตุจากยอดการโอนที่ลดลง โดยคาดว่าจะอ่อนแอต่อเนื่องไปยัง Q2/55 ซึ่งผลประกอบการจะฟื้นตัวดีอีกครั้งใน 2H55 ขณะที่ Backlog ในมืออยู่ระดับสูงสุด 2.4 หมื่นล้านบาท 70% จะรับรู้รายได้ในปีถัดไป แม้เราปรับประมาณการกำไรและ APER ขึ้นจากเดิม ราคาที่เหมาะสมใหม่ 16.10 บาท (อ้างอิง APER 9 เท่า) ยังคงต่ำกว่าราคาตลาดที่ปัจจุบันซื้อขายในระดับ APER ที่สูงสุด 11 เท่า และทำให้ผลตอบแทนเงินปันผลอยู่ในระดับที่น่าสนใจลดลง ยังคงแนะนำ "ถือ"
คาดผลประกอบการ Q1/55 กำไรสุทธิ 256 ล้านบาท ปรับลดทั้งรายไตรมาสและรายปี
        เราคาดรายได้รวมของ SPALI ใน Q1/55 จะทำได้ 1.65 พันล้านบาท (-32%QoQ,-27%YoY) สาเหตุจากการรับรู้รายได้หลักที่เป็นแนวราบ และสินค้าคอนโดมีเนียมที่เป็นส่วนน้อย มีผลทำให้มีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยที่ปรับลดเป็น 40.5% ทั้งนี้ การเสียภาษีในอัตราที่ลดลงตามมาตรการภาครัฐทำให้ในไตรมาสนี้มีจำนวนภาษีราว 78 ล้านบาท ลดลง 75% QoQ และ 10% YoY โดยรวมทำให้ทั้งๆไตรมาสจะมีกำไรสุทธิ 256 ล้านบาท ลดลง27% QoQ และ ลดลง 52% YoY
แนวโน้มผลประกอบการในQ2/55 ยังคงอ่อนแอ แต่จะฟื้นตัวดีขึ้นใน 2H55
        คาดในQ2/55 แนวโน้มผลประกอบการของ SPALI ยังคงอ่อนแอต่อเนื่องจากQ1/55 อย่างไรก็ตามการรับรู้รายได้จะเริ่มฟื้นตัวขึ้นใน Q3/55 จากการรับรู้รายได้ของสินค้าคอนโดมีเนียม 3 แห่ง คือ 1) โครงการ Supalai Park Asoke-Ratchada 2)Supalai Park Ratchayothin และ 3) Supalai Park @ Downtown Phuket โดยรวมราว 3.7 พันล้านบาท และคาดว่าผลประกอบการจะโดดเด่นสุดใน Q4/55
ยอดขายรายไตรมาสยังทำได้ดีต่อเนื่องแต่คาดอ่อนตัวลงใน Q2/55
        SPALI แจ้งตัวเลขยอดขาย (Presale Contract) ของ Q1/55 ทำได้ 4.2 พันล้านบาท สินค้าเป็นคอนโดมีเนียม  74% ส่วนที่เหลือเป็นแนวราบ คิดเป็น 23% ของเป้าหมายทั้งปีของ SPALI ที่ 23% 1.9 หมื่นล้านบาท  ซึ่งเราคาดว่ายอดขายใน Q2/55 อาจทำได้น้อยกว่า Q1/55 สาเหตุจากวันหยุดที่มากในเดือน เม.ย 55 รวมถึงการเปิดตัวโครงการใหม่เพียง 1แห่งที่ภูเก็ต คือ Supalai Park @ Phuket City มูลค่า 840 ล้านบาท.ซึ่งในเดือน เม.ย 55 บริษัทมียอดขาย 884 ล้านบาท แต่เราคาดว่ายอดขายจะฟื้นตัวดีขึ้นใน 2H55 มาจากการเปิดโครงการใหม่แนวราบ 6 โครงการ มูลค่ารวม 5.1 พันล้านบาท และ คอนโดมีเนียม อีก 2 แห่งมูลค่า 2.3 พันล้านบาท
แนะนำ "ถือ" ราคาหุ้นปรับเพิ่มผลตอบแทนลดลง
        เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2555 เพิ่มเล็กน้อยจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ บริษัททำได้ดีกว่าคาด ในขณะเดียวกับที่คาดว่าจะค่าใช้จ่ายที่เพิ่มเติมจากการเปิดตัวโครงการในปลายปีที่ค่อนข้างมาก โดยคาดว่าปี 2555 บริษัทจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 3,097 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% และปรับ APER เพิ่มเป็น 9 เท่า ทำให้ราคาที่เหมาะสมใหม่อยู่ที่ 16.10 บาท จากเดิม 14.20 บาท แม้ว่า Backlog ในมือปัจจุบันของบริษัทที่อยู่ระดับสูงราว 2.4 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามการรับรู้รายได้จากงานในมือดังกล่าว 1.7 หมื่นล้านบาท หรือ  70% จะรับรู้รายได้ในปี 2556-2558 ซึ่งประมาณ 8.8 พันล้านบาท รับรู้รายได้ใน ปี 2555  โดยความน่าสนใจของ SPALI ลดลง จากระดับราคาที่ปรับเพิ่มโดยปัจจุบัน ระดับราคาซื้อขายระดับ P/E ที่ 11 เท่า สูงกว่าในอดีตที่ผ่านมา รวมถึงผลตอบแทนเงินปันผลเพียง 4..6% (คาดจ่ายปันผล 75 สตางค์/หุ้น) ในขณะที่ผลประกอบการอ่อนแอใน 1H55 ซึ่งเราคาดว่าจะมีกำไร คิดเป็น 17% ของประมาณการทั้งปี คาดว่าจะกดดันระดับราคาหุ้น เราจึงคงคำแนะนำ "ถือ"
-----------------------------------------------------------------------