LPN : บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
หมวดธุรกิจ : พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ www.lpn.co.th 
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
-----------------------------------------------------------------------
ศุกร์ 10 ส.ค.2555--LPN :
ที่มา : Analyst Comment : บล.เกียรตินาคิน

LPN  Q2/55 กำไรอ่อนแอตามคาด ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลให้ผลตอบแทน 1.4%
มูลค่าเหมาะสม    15.20 บาท ราคาล่าสุด ( 9 ส.ค 2555)   16.50 บาท
แนะนำ     ขาย
ประเด็นสำคัญ    

        * LPN ประกาศผลประกอบการ Q2/55 มีกำไรสุทธิ 147 ล้านบาท ลดลง 50% QoQ และลดลง 75%YoY
ความเห็นนักวิเคราะห์   
        * Q2/55 เป็นไตรมาสที่มีผลประกอบการต่ำสุดของปี แต่ดีกว่าที่เราคาด 6% สาเหตุจากการรับรู้รายได้และอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่าคาด มีรายได้โดยรวม 1.1 พันล้านบาทลดลง 48% QoQ และลดลง 70% YoY หลักๆ มาจากการโอนของโครงการนิด้า-เสรีไทย ในขณะที่โครงการเก่าที่บริษัทขายได้มีการปรับราคาทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของไตรมาสนี้ทำได้ดีอยู่ที่ 32.5% โดยมีกำไรสุทธิรวมของ 1H55 อยู่ที่ 441 ล้านบาท ลดลง 55% YoY ซึ่งจากยอดโอนที่ลดลงทำให้มีรายได้ลดลง 47% YoY อยู่ที 3.2 พันล้านบาท
        * LPN เตรียมเปิดโครงการต่างจังหวัดเพิ่มใน Q3/55 จำนวน 3 โครงการ ได้รับการตอบรับที่ดีพอควร โดยขายปิดโครงการ 1 แห่ง และอีก 2 โครงการคือ LV-JT (จอมเทียน) และ LV -NW1 (วงศ์อมาตย์) มียอดขาย 75% และ 65% ตามลำดับ สำหรับใน Q3/55 LPN มีแผนเปิดโครงการอีก 3 แห่ง มูลค่า รวม 6.1 พันล้านบาท เป็นโครงการต่างจังหวัดโครงการใหญ่ LV ชลบุรี มูลค่าโครงการ 4.2 พันล้านบาท และ LV วงศ์อมาตย์ 1.8 พันล้านบาท นอกจากนั้น ยังมีโครงการ LV รามคำแหง มูลค่า 1.2 พันล้านบาท และคาดว่าในอนาคต LPN จะมีแผนขยายตลาดไปยังจังหวัดอื่นเพิ่ม ซึ่งเป็นการขยายฐานลูกค้าจากเดิมที่อยู่เพียงบริเวณ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเราคาดว่าในอนาคตสัดส่วนของลูกค้าที่ต่างจังหวัดจะเพิ่มขึ้นเป็น 10-15% เทียบกับกลุ่มลูกค้ารวม
        * คงคำแนะนำ "ขาย" ราคาตลาดยังมี Downside risk 8% เรายังคงประมาณการเดิมกำไรสุทธิของปี 55 ทั้งปี 2.2 พันล้านบาท แม้ว่าผลประกอบการครึ่งปี 1H55 ที่ 441 ล้านบาท คิดเป็น 19% แต่คาด 2H55 จะทำได้ดีกว่าจากแผนการโอนคอนโดมีเนียมที่กว่า 7 แห่ง ของ Backlog ในมือที่ 9.6 พันล้านบาท จากงานในมือปัจจุบันที่ 1.9 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามจากราคาที่เหมาะสมปี 55 ที่ 15.20 บาท อ้างอิง (APER 10 เท่า) เทียบกับราคาตลาดมี Downside Risk 8% โดยมีประเด็นที่ต้องติดตามคือ 1) ความเสี่ยงจากการเร่งโอนให้ทันตามกำหนดในช่วงปลายปี 2) การเร่งยอดขายเพื่อให้ทันการรับรู้รายได้ในปี 56 โดยบริษัทประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 23 สตางค์ต่อหุ้น ผลตอบแทน 1.4% (ขึ้น XD 21 ส.ค. จ่ายปันผล 4 ก.ย.) เราคาด LPN จะจ่ายปันผลทั้งปีที่ 76 สตางค์ต่อหุ้น ให้ผลตอบแทน 4.6%
-----------------------------------------------------------------------

ศุกร์ 10 ส.ค.2555--LPN :
ที่มา : วิเคราะห์หุ้นรายวัน : บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง

บมจ.แอล.พี.เอ็น ดีเวลลอปเม้นท์ (LPN)         ถือ (unchanged)
ราคาปิด (บาท)     : 
ราคาเป้าหมาย (บาท):  17.00
ผลประกอบการ 2Q55 ดีกว่าคาดเล็กน้อย
         ประเด็นการลงทุน :  LPN รายงานผลประกอบการของ 2Q55 ที่ 147 ล้านบาท (-74% YoY และ -50% QoQ) ดีกว่าคาดประมาณ 12% เป็นผลมาจากอัตราการทำกำไรขั้นต้นและส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนที่ดีกว่าคาด  โดยเราประเมินว่า 2Q55 จะเป็นไตรมาสที่ต่ำที่สุดของปี และผลประกอบการจะดีขึ้นใน 3Q55 และโดดเด่นเป็นประวัติการณ์ของบริษัทใน 4Q55 ดังนั้น เราคงประมาณการการเติบโตของรายได้และกำไรสุทธิของปี 2555 เท่ากับ 15.7% yoy และ 21.8% yoy ตามลำดับ และคงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 17.00 บาท/หุ้น เพื่อรับเงินปันผลโดยงวด 1H55 LPN ประกาศเท่ากับ 0.23 บาท/หุ้น ผลตอบแทนประมาณ 1.3%
         ผลประกอบการ 2Q55 ดีกว่าคาดจากอัตราการทำกำไรขั้นต้นและส่วนแบ่งกำไรเงินลงทุนที่สูงขึ้น : LPN รายงานรายได้ของ 2Q55 ที่เท่ากับ 1,111 ล้านบาท (-70% YoY และ -48.4% QoQ) และใกล้เคียงกับที่เราคาดไว้ที่ 1,185 ล้านบาท โดยรายได้ที่อ่อนตัวเป็นผลมาจากการรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมขนาดเล็กพียง 1 โครงการคือ ลุมพินี นิด้า-เสรีไทย เฟส 2 มูลค่าโครงการเพียง 565 ล้านบาทโดยบันทึกรายได้ไป 420 ล้านบาทและส่วนที่เหลือจากโครงการ ลุมพินี วิลล์ ลาซาล-แบริ่ง เท่ากับ 193 ล้านบาท รวมกับรายได้จากโครงการเหลือขายอื่นและโครงการแนวราบอีก 52 ล้านบาท ขณะที่อัตราการทำกำไรขั้นต้นเท่ากับ 32.5% สูงกว่าที่เราคาดไว้ที่ 30.7% ดีขึ้นจาก 29.5% ใน 1Q55 แต่อ่อนตัวเล็กน้อยจาก 33.2% ใน 2Q54 นอกจากนี้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม (Grund U) เติบโตอย่างมีนัยยะถึง +168% YoY และ +39% QoQ ทำให้กำไรสุทธิของ 2Q55 เท่ากับ 147 ล้านบาท (-74% YoY และ -50% QoQ) ดีกว่าที่เราคาดไว้ที่ 131 ล้านบาทประมาณ 12% และส่งผลให้รายได้ของ 1H55 เท่ากับ 3,264 ล้านบาท (-47.4% YoY) และกำไรสุทธิเท่ากับ 441 ล้านบาท (-55% YoY)
         3 โครงการใหม่ใน 2H55 คงเป้า Presales ปีนี้ที่ 16,000 ล้านบาทเติบโต 12% YoY : LPN วางแผนการเปิดโครงการใหม่ใน 2H55 ที่ 3 โครงการคือ ลุมพินี วิลล์ รามคำแหง 60/2 มูลค่า  1,450 ล้านบาท ลุมพินี คอนโดทาวน์ ชลบุรี-สุขุมวิท มูลค่า 2,600 ล้านบาท ลุมพินี วิลล์ นาเกลือ-วงศ์อมาตย์ เพส 2 มูลค่า 2,100 ล้านบาท รวม 6,150 ล้านบาท และจากยอด Presales ของ 1H55 ที่เท่ากับ 11,000 ล้านบาทหรือคิดเป็น 69% ของเป้าในปีนี้ที่ 16,000 ล้านบาท (+12% YoY) เราจึงประเมินว่าการเปิดโครงการใหม่เพียง 3 แห่งคาดเพียงพอที่จะทำให้ LPN มียอด Presales ของปีนี้ถึงเป้าที่วางไว้ได้ 
         คงประมาณการปี 2555 คาดก้าวกระโดดมากใน 2H55 : LPN มี Backlog ณ สิ้น 2Q55 เท่ากับ 19,983 ล้านบาท โดยจะรับรู้ใน 2H55 สูงถึง 9,870 ล้านบาท รับรู้ในปี 2556 เท่ากับ 7,725 ล้านบาทและส่วนที่เหลือรับรู้ในปีนี้ 2557 เท่ากับ 2,388 ล้านบาท ด้วย Backlog ของ 2H55 ที่แข็งแกร่งทำให้เราคาดว่าผลประกอบการของ LPN ใน 4Q55 นี้โดดเด่นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท  เราจึงคงประมาณการรายได้ของปี 2555 ที่ 14,222 ล้านบาท (+15.7% yoy) มี Secured Revenue แล้ว 92% โดยเรารวมรายได้จากโครงการแนวราบไว้ในประมาณการ 700 ล้านบาท และคาดกำไรสุทธิเท่ากับ 2,365 ล้านบาท (+21.8% yoy)
         คงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 17.00 บาท/หุ้น : จากการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมบนสมมติฐาน Forward PER ที่ 11 เท่าได้ราคาเป้าหมายของปี 2555 ที่17.00 บาท/หุ้น  คงคำแนะนำ ถือ จากระดับผลตอบแทนจากเงินปันผลประมาณ 4 - 5% ต่อปี โดยโดย LPN ประกาศจ่ายเงินปันผลของงวด 1H55 ที่เท่ากับ 0.23 บาท/หุ้น ดีกว่าที่เราคาดไว้ที่ 0.13 บาท/หุ้น ผลตอบแทนประมาณ 1.3% จะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 21 ส.ค. 55 จ่ายวันที่ 4 ก.ย. 55
-----------------------------------------------------------------------

จันทร์ 30 เม.ย.2555--LPN :
ที่มา : วิเคราะห์หุ้นรายวัน : บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง

บมจ.แอล.พี.เอ็น ดีเวลลอปเม้นท์ (LPN)    ถือ (unchanged)
ราคาปิด (บาท)     :  17.10
ราคาเป้าหมาย (บาท):  17.00
คาด 1Q55 ลดลง 23% YoY แต่เพิ่มขึ้น 401% QoQ  
     ประเด็นการลงทุน :  เราคาดผลประกอบการของ LPN ใน 1Q55 จะอ่อนตัวลงจากการรับรู้รายได้โครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการที่มีขนาดเล็ก ประกอบกับเป็นโครงการที่มีอัตราการการทำกำไรขั้นต้นต่ำ คาดกำไรสุทธิของ 1Q55 ที่เท่ากับ 312 ล้านบาท (-23% YoY แต่เติบโต 401%) สำหรับปี 2555 เราคาดว่า Backlog ของ LPN ที่มีอยู่กว่า 9,773 ล้านบาทจะสนับสนุนให้รายได้ เติบโต  15.7% YoY เท่ากับ14,222 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม LPN อาจมี Downside ของอัตราการทำกำไรขั้นต้นของโครงการที่เปิดขายในปี 2554  ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดขายช่วงที่มีการทำการส่งเสริมการขายด้านราคา เราจึงคงคำแนะนำ ถือ  โดยจากการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมบนสมมติฐาน Forward PER ที่ 11 เท่า ได้ราคาเป้าหมายของปี 2555 ที่17.00 บาท/หุ้น 
     คาดผลประกอบการ 1Q55 ลดลง 23% YoY แต่เพิ่มขึ้น 401% QoQ : ใน 1Q55 LPN รับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่ 2 โครงการคือ ลุมพินี คอนโดทาวน์ นิด้า-เสรีไทย มูลค่าโครงการ 465 ล้านบาทคาดรับรู้ 400 ล้านบาท และโครงการ ลุมพินี วิลล์ ลาซาล-แบริ่ง มูลค่าโครงการ 920 ล้านบาท คาดรับรู้ 720 ล้านบาท นอกจากนี้มียอดรับรู้รายได้จากโครงการที่สร้างเสร็จในปี 2554 เช่นโครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 4 - กล้วยน้ำไท และ ลุมพินี เพลส รัชโยธิน ดังนั้นเราคาดรายได้ของ 1Q55 ที่เท่ากับ 2,031 ล้านบาท (-19% YoY แต่เพิ่มขึ้น 109% QoQ) ขณะที่อัตราการทำกำไรขั้นต้นคาดจะอ่อนตัวลงเป็นเท่ากับ 31.6% เปรียบเทียบกับ 33.9% ใน 1Q54 และ 35.3% ใน 4Q54 เป็นผลมาจากโครงการที่สร้างเสร็จและเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาสนี้เป็นโครงการที่เปิดขายในช่วงปี 2554 ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทเน้นการทำการส่งเสริมการขายด้านราคา ขณะที่ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ คาดว่าจะทรงตัว  ดังนั้นคาดกำไรสุทธิที่เท่ากับ 312 ล้านบาท (-23% YoY แต่เติบโต 401%)
     ตั้งเป้า Presale และโครงการใหม่ปี  2555 กว่า 16,000 ล้านบาท : ปี 2555 LPN ตั้งเป้าการเติบโตยอด Presale ในปี 2555 ที่ 12% yoy เท่ากับ 16,000 ล้านบาท โดย 1Q55 มียอด Presales แล้วเท่ากับ 4,863 ล้านบาท (30.3% ของเป้า) และมีแผนเปิดโครงการใหม่ไม่ต่ำกว่า 16,000 ล้านบาทโดยอยู่ในพื้นที่เช่น สุขุมวิท 77, สุขุมวิท 109, รัชโยธิน,รัตนาธิเบศท์, รามคำแหง รวมทั้งต่างจังหวัด คือ พัทยา หัวหิน ชลบุรี
     Backlog รองรับ 83% ของเป้ารายได้ในปีนี้ : ณ สิ้น 1Q55 LPN มี Backlog เท่ากับ 15,278 ล้านบาท โดยจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ 9,773 ล้านบาท (64%) ส่วนที่เหลือจะรับรู้ในปี 2556 ซึ่งเมื่อรวมรายได้ของ 1Q55 กับ Backlog ที่รอรับรู้รายได้แล้วจะทำให้ LPN มี Secured Revenue คิดเป็น 83% ของประมาณการรายได้ที่เราคาดไว้ที่ 14,222 ล้านบาท (+15.7% yoy) และเราคาดกำไรสุทธิคาดกำไรสุทธิเท่ากับ 2,365 ล้านบาท (+21.8% yoy) อย่างไรก็ตาม แนวโน้มผลประกอบการของ LPN ใน 2Q55 จะเป็นไตรมาสที่ต่ำสุดของปีนี้ และจะเริ่มดีขึ้นใน 3Q55 และจะดีที่สุดใน 4Q55 และ LPN อาจมี Downside ของอัตราการทำกำไรขั้นต้นของโครงการที่เปิดขายในปี 2554  ซึ่งจะทยอยสร้างเสร็จในปี 2555 -2556 โดยโครงการเหล่านั้นเป็นโครงการที่มีการอัตราการทำกำไรขั้นต้นต่ำจากการทำการส่งเสริมการขายด้านราคา เช่น โครงการลุมพินี วิลล์ พิบูลสงคราม ริเวอร์วิลล์ และลุมพินี พัทยาเหนือ-สุขุมวิท  
     คงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 17.00 บาท/หุ้น : จากการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมบนสมมติฐาน Forward PER ที่ 11 เท่าได้ราคาเป้าหมายของปี 2555 ที่17.00 บาท/หุ้น  คงคำแนะนำ ถือ
-----------------------------------------------------------------------

พุธ 25 เม.ย.2555--LPN :
ที่มา : วิเคราะห์หุ้นรายวัน : บมจ.เคจีไอ

บมจ. แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์
คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาสที่ 1/55 จะลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ   ถือ   
ราคาปัจจุบัน (บ.)       17.2
ราคาเป้าหมาย (บ.)     15.5
Upside (%)           -9.9
สรุปประเด็นสำคัญ และข่าวล่าสุด
       * ปรับลดคำแนะนำเป็นถือ จาก upside ของราคาหุ้นที่จำกัด
       * คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาสที่ 1/55 จะลดลง 13.7%YoY แต่เพิ่มขึ้น 462%QoQ
       * ยอด presales  ในไตรมาสที่ 1/55 คิดเป็น 30.4% ของเป้าหมายทั้งปี
ปรับลดคำแนะนำเป็นถือ จากซื้อ จาก upside ของราคาหุ้นที่จำกัด
       ถึงแม้พื้นฐานของบริษัทจะแข็งแกร่ง และบริษัทจะได้รับผลกระทบน้อยที่สุดจากภาวะน้ำท่วมในปีที่แล้ว แต่เราก็ได้ปรับลดคำแนะนำลงเป็นถือ จากซื้อโดยคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 15.50 บาท เนื่องจากราคาหุ้นได้ปรับขึ้นมาแล้วถึง 22% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาจนถึงช่วง 1.5 SD ของ PE เฉลี่ยในอดีตที่ 11x ของประมาณการกำไรสุทธิปี 2555 (ภาพที่ 1) ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ได้มีปัจจัยใหม่ๆที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิด upside ของผลประกอบการในปีนี้ เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 10 เดือนกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ เราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2555-2556 ไว้ที่ 2.3 พันล้านบาท และ2.6 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19.3%YoY และ 14.2%YoY ตามลำดับ โดยราคาหุ้นในปัจจุบันยังนับว่ามี downside อยู่ 9.9% จากราคาเป้าหมายของเรา
คาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาสที่ 1/55 จะลดลง 13.7%YoY แต่เพิ่มขึ้น 462%QoQ
       ในไตรมาสที่ 1/55 เราคาด LPN จากรับรู้รายได้จากโครงการหลัก 4 โครงการซึ่งได้แก่ Lumpini Place พระราม 4-กล้วยน้ำไท Lumpini Place รัชโยธิน Lumpini Ville นิด้า-เสรีไทย และ Lumpini Ville ลาซาล-แบริ่ง โดยคาดว่ารายได้ในไตรมาสนี้จะอยู่ที่ 2.2 พันล้านบาท ลดลง 13.7%YoY แต่เพิ่มขึ้น 122.7%QoQ ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะลดลงเหลือ 31.5% จาก 33.9% ในไตรมาสที่ 1/54 และ 35.3% ในไตรมาสที่ 4/54 ทั้งนี้ผลประโยชน์จากอัตราภาษีนิติบุคคลที่ลดลงจาก 30% เหลือ 23% ในปีนี้ เราจึงคาดว่า LPN จะมีกำไรสุทธิ 350 ล้านบาท ลดลง 13.7%QoQ แต่เพิ่มขึ้น 462%YoY
       จากสถานการณ์น้ำท่วมในปีที่แล้วซึ่งทำให้การก่อสร้างโครงการต่างๆ ของ LPN ล่าช้าออกไปจากปัญหาการขาดแคลนวัสดุและแรงงาน ทำให้ผลประกอบการในครึ่งแรกของปีนี้น่าจะแย่กว่าครึ่งหลังของปีที่แล้ว เนื่องจากโครงการที่ล่าช้าน่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสที่ 4/55 ขณะที่คาดว่าผลประกอบการไตรมาสที่ 2/55 จะอ่อนแอที่สุดในปีนี้ ทั้งนี้จากหมายกำหนดการของบริษัท มีคอนโดมิเนีมเพียง 3 แห่งที่จะเสร็จในครึ่งแรกของปีนี้ และอีก 7 โครงการจะเสร็จในครึ่งหลังของปีนี้ (ภาพที่ 3)
ยอด presales ในไตรมาสที่ 1/55 คิดเป็น 30.4% ของเป้าทั้งปี
       LPN เปิดเผยว่ายอด presales ในไตรมาสที่ 1/55 อยู่ที่ 4.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.3%YoY และ 10.4%QoQ ซึ่งคิดเป็น 30.4% ของเป้าหมายทั้งปีของบริษัทที่ 1.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งสาเหตุหลักที่ยอด presale สูงก็คือ i) การที่อุปสงค์บางส่วนเปลี่ยนจากบ้านแนวราบในเขตชานเมืองมาเป็นคอนโดมิเนียมในเมือง ii) มีการเปิดขายโครงการใหม่ 2 แห่งในไตรมาสที่ 1/55 ซึ่งมีมูลค่ารวม 4.6 พันล้านบาท ซึ่งทำให้ยอด backlog อยู่ที่ 1.53 หมื่นล้านบาท โดยที่ 9.8 พันล้านบาทจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2555 และที่เหลือจะรับรู้ในปี 2556
       ณ ระดับราคาปัจจุบันซึ่งซื้อขายอยู่ที่ 11X ของ PE ปี 2555 LPN ถือว่าไม่น่าสนใจและเราไม่คิดว่าจะมี upside สำหรับกำไรในปีนี้ ดังนั้นเราจึงปรับลดคำแนะนำลงเป็นถือ จากซื้อ โดยคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 15.50 บาท
-----------------------------------------------------------------------

อังคาร 24 เม.ย.2555--LPN :
ที่มา : DAILY STOCK : บล.เกียรตินาคิน

LPN  (L.P.N. Development PCL.)
Sector  :  Property 
คำแนะนำ              ขาย
Fair Value'55 (Bt)   15.20
Closed Price (Bt)    17.10
Downside Risk        -11%
Dividend Yield 54F   4.7%
CGR 2011      
Business Description
       พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบการขายและการให้เช่า โดยเริ่ม จากการหาทำเลที่เหมาะสม กำหนดรูปแบบการพัฒนา กลุ่มเป้าหมาย ราคา แนวทางการตลาด การขาย การบริหารด้าน การก่อสร้าง ในลักษณะประสานงาน ควบคุมให้เป็นไปตามแผนงาน จดทะเบียนอาคารชุด นิติบุคคลอาคารชุด โอนกรรมสิทธิ์ และบริหารอาคารในเบื้องต้น ตามพระราชบัญญัตินิติบุคคลอาคารชุดที่กำหนดให้เจ้าของโครงการต้องดำเนินการ
       เราปรับคำแนะนำ LPN เป็น "ขาย" จาก "ซื้อเก็งกำไร" สาเหตุจาก 1) ระดับราคาปรับเพิ่มสะท้อนปัจจัยบวก จนมูลค่าตลาดมากกว่าราคาพื้นฐานที่ 15.20 บาท 2) เราคาดหมายว่าแนวโน้มผลประกอบการของ LPN จะอ่อนแอลงและต่ำสุดใน Q2/55 และ 3) ความเสี่ยงจากการเลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่ใน Q2/55 ออกไป 2-3 โครงการ เนื่องจากความไม่พร้อมในการโอนที่ดิน อาจมีผลต่อการเติบโตของยอดรับรู้รายได้ในปี 2556 โดยคาดผลประกอบการในQ1/55 ทำได้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับรายไตรมาสแต่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับรายปี คาดมีกำไรสุทธิ 358 ล้านบาท (+474% QoQ, -12% YoY)
ปรับคำแนะนำ เป็น "ขาย" ราคาปรับเพิ่มสะท้อนภาพบวกเกินมูลค่าพื้นฐาน
       แม้ว่าพื้นฐานของ LPN มีความน่าสนใจ จากสินค้าคอนโดมีเนียมที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องรวมถึงการรับรู้รายได้ที่มาจากงานในมือ อย่างไรก็ตาม เราปรับคำแนะนำ จาก ซื้อเก็งกำไร เป็น ขาย สาเหตุจาก (1) ระดับราคาที่ปรับเพิ่มกว่า 28% นับจากต้นปี ซึ่งเรามองว่าได้สะท้อนภาพบวกของ LPN จากการเป็นผู้ประกอบการที่รับผลกระทบจากน้ำท่วมน้อยสุด และการมีหลักประกันงานในมือรอรับรู้รายได้กว่า 9 พันล้านบาท ไปพอควร โดยเรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2555 ที่ 2.2 พันล้านบาท ที่เติบโตถึง 17%YoY เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมที่ 15.20 บาท (อ้างอิง APER 10 เท่า) มี Downside Risk 11% (2) ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามคือการเติบโตของผลประกอบการในปี 2556 ที่ขึ้นอยู่กับยอดขายในปีนี้ โดยบริษัทมีแนวโน้มเลื่อนการเปิดโครงการใหม่ใน Q2/55 ออกไป 2-3 โครงการเนื่องจากปัญหาการโอนที่ดิน ซึ่งอาจมีผลต่อการเติบโตของรายได้ปี 2556  และ (3) ผลประกอบการที่อ่อนตัวลงใน Q2/55 ที่คาดว่าจะต่ำสุดของปี
คาดกำไรสุทธิQ1/55 ปรับดีขึ้น เทียบกับรายไตรมาสแต่ลดลง เมื่อเทียบกับรายปี
       เราคาดผลประกอบการ ของ Q1/55 จะมีกำไรสุทธิ 358 ล้านบาท (+474%QoQ,-12%YoY) ฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับQ4/54 ที่ส่วนหนึ่งรับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยคาดว่าจะมีรายได้จากการขาย และบริการ 2.1 พันล้านบาท (+121%QoQ,-14%YoY) มาจากการโอนของโครงการหลักเพียง 2 แห่งคือ LV-ลาซาล แบรริ่ง และ LC นิดา-เสรีไทย 1 โดยมีโครงการคงเหลือที่รับรู้รายได้ต่อเนื่องจาก  LP -รัชโยธิน และ LP- พระราม4-กล้วยน้ำไท  และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับลดเป็น 34% สาเหตุจากการโอนสินค้า LC ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่น้อยกว่าเข้ามาบางส่วน และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เมื่อเทียบกับยอดขายที่ราว 13% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าในไตรมาสนี้การเริ่มใช้อัตราภาษี 23% จะเห็นการเสียภาษีที่ลดลง ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรสุทธิปรับขึ้นเล็กน้อยเป็น 16.7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 16.2%
คาดจะเห็นผลประกอบการอ่อนแอสุดในไตรมาสหน้า
      จากแผนการรับรู้รายได้ของโครงการ LPN  จาก (ตารางด้านล่าง) เราคาดว่าในQ2/55 ผลประกอบการยังคงทำได้ไม่ดีนัก เนื่องจากจะมีโครงการที่จะรับรู้รายได้ตามแผนเพียง 1โครงการ คือ LC  นิดา-เสรีไทย2 ที่มีมูลค่าเพียง 565 ล้านบาท ทำให้คาดว่าใน Q2/55 LPN จะมีผลประกอบการที่ต่ำสุดของปี ซึ่งมีผลต่อผลประกอบการของ ครึ่งปีแรกที่อ่อนแอ และคาดว่าการจ่ายปันผลของ 1H55 จะให้ผลตอบแทนที่ยังไม่ดีนัก ในขณะที่คาดว่า ผลประกอบการจะเริ่มฟื้นตัวใน Q3/55 จากการโอน ของ 2 โครงการคือ LV-พัฒนาการ และ LP-ริเวอร์ไซด์ พระราม 3 (คาดรับรู้รายได้เบื้องต้น ราว 3 พันล้านบาท ) และจะกลับมาโดดเด่นอีกครั้งใน Q4/55 จากอีก 5 โครงการ (เบื้องต้นคาดรับรู้รายได้ราว 6 พันล้านบาท) 
-----------------------------------------------------------------------