GFPT : บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน)
หมวดธุรกิจ : ธุรกิจการเกษตร  www.gfpt.co.th

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
-----------------------------------------------------------------------
พุธ 24 พ.ย.--GFPT :
Company Focus : บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส

GFPT                คำแนะนำ ซื้อ
ราคาปิด 8.20 บาท     ราคาตามพื้นฐาน 10.71 บาท (เดิม 9.94 บาท)
แนวโน้มกำไร 4Q53 และปี 54 มีมาร์จิ้นดีกว่าคาดการณ์เดิม
    *  4Q53 : คาดกำไรสุทธิยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าในเดือนต.ค.จะมีปัญหาจากภาวะน้ำท่วมบ้าง แต่ยอดขายในเดือนนี้ยังเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อยเมื่อเทียบ YoY และปัญหาน้ำท่วมทำให้ Supply ไก่ในประเทศลดลง ยังผลให้ราคาไก่ปรับขึ้น 15-18% เป็น 38 บาทต่อกก.ในปัจจุบัน ส่วนราคาเครื่องในและโครงไก่ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ GFPT จำหน่ายในประเทศปรับขึ้นในอัตราที่ใกล้เคียงกันมาเป็น 18-19 บาทต่อกก. ปริมาณส่งออกใน 4Q53 คาดว่าจะใกล้เคียงกับ 3Q53 ที่ 1.8-1.9 พันตันต่อเดือน ด้านต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ คือ ข้าวโพด, กากถั่วเหลือง และถั่วเหลืองปรับขึ้นแต่ไม่มาก ทำให้คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้จะยังคงสูงถึง 17% ใกล้กับ 3Q53 ที่ 17.74%  ในเบื้องต้นประมาณการว่ากำไรสุทธิ 4Q53 จะเท่ากับ 337 ล้านบาท ลดลง 9%QoQ
    *  GFN : ธุรกิจโดยรวมสร้างกำไรสุทธิให้กับ GFPT ในปี 54 เล็กน้อย บริษัทร่วมทุน GFN (GFPT ถือหุ้น 49% และนิชิเรของญี่ปุ่นถือหุ้น 51%) จะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการตั้งแต่ 19 ธ.ค.53 เป็นต้นไป (เริ่มส่งออกไปญี่ปุ่นตั้งแต่ธ.ค.53) โดยในช่วงต้นบริษัทร่วมทุนนี้ยังมีผลขาดทุนสุทธิเพราะใช้กำลังการผลิตน้อย ผู้บริหารคาดว่า GFN จะใช้กำลังการผลิตเต็มที่ได้ตั้งแต่มิ.ย.54 เป็นต้นไป และจะถึงจุดคุ้มทุนในปลายปี 54 โดยในปี 54 ทาง GFPT จะมีส่วนแบ่งผลขาดทุนจาก GFN เข้ามาประมาณ 150 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาผลกระทบของ GFN ต่อ GFPT สุทธิแล้วพบว่าเป็นบวก โดยยอดขายไก่สดที่ GFPT ขายให้กับ GFN เพิ่มขึ้น และการใช้กำลังการผลิตอาหารสัตว์ที่มากขึ้นทำให้ธุรกิจมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น สามารถชดเชยกับส่วนแบ่งผลขาดทุนจาก GFN ที่รับรู้เข้ามาและยังสร้างกำไรสุทธิส่วนเพิ่มได้เล็กน้อย
    *  ปริมาณส่งออกปี 54 มีแนวโน้มเติบโต 5-7% (จากปี 53 ที่มีปริมาณส่งออกประมาณ 4.2 แสนตัน) แม้ว่าในส่วนของการส่งออกไก่แปรรูปของไทยไปสหภาพยุโรปจะติดเพดานโควต้าที่ 1.6 แสนตัน แต่มีโอกาสที่จะนำเข้านอกโควต้ามากขึ้นเพราะอุปสงค์แข็งแกร่งมาก เห็นได้จากค่า Premium ที่ผู้นำเข้าในสหภาพยุโรปซื้อโควต้านำเข้าจากรายอื่นที่พุ่งขึ้นเป็น 400 ยูโรต่อตัน จากเดิมที่ 200 ยูโรต่อตัน ซึ่งหากปรับขึ้นเป็น 500 ยูโรต่อตัน การนำเข้านอกโควต้าจะคุ้มกว่า ส่วนตลาดญี่ปุ่นยังมีความต้องการไก่แปรรูปเพิ่มขึ้นและเป็นตลาดส่งออกที่เติบโตดี สำหรับปริมาณส่งออกของ GFPT คาดว่าจะเติบโตในอัตราที่ใกล้เคียงกับอุตสาหกรรม
    *  ราคาส่งออก 1Q54 มีแนวโน้มปรับขึ้น 5-10% จาก 4Q53 ที่เท่ากับ 4 พันเหรียญสหรัฐต่อตันสำหรับตลาดยุโรป และ 4.2-4.5 พันเหรียญสหรัฐต่อตันสำหรับตลาดญี่ปุ่น เพราะเป็นไปตามต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์ที่สูงขึ้นและสต็อกของผู้ซื้อที่ลดลง สำหรับทั้งปี 54 ผู้บริหารคาดว่าราคาส่งออกรูปดอลลาร์สหรัฐจะปรับขึ้นประมาณ 5%YoY แต่จะถูกชดเชยไปด้วยค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น
    *  ปี 54 คาดรายได้ธุรกิจอาหารสัตว์และยอดขายไก่ในประเทศโต 10% รายได้จากธุรกิจอาหารสัตว์ (ไก่ กุ้งและปลา) และยอดขายไก่ในประเทศ (โครงและเครื่องในไก่) คาดว่าจะเติบโต 10% ในปี 54 โดยยอดขายอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้นโดยหลักมาจากการขยายตัวของธุรกิจฟาร์มเพื่อจำหน่ายให้กับ GFN ส่วนยอดขายไก่ในประเทศเติบโตตามปริมาณส่งออกที่เพิ่มขึ้น
    *  โครงสร้างรายได้ของ GFPT (9M53) ประกอบด้วย รายได้จากการขายไก่ในประเทศและส่งออก 35%, รายได้จากอาหารสัตว์บกและสัตว์น้ำ 57%, รายได้จากผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปและอื่นๆ 8%    *  อัตรากำไรขั้นต้นในปี 54 อยู่ในเกณฑ์สูง แม้ว่ายอดขายไก่ให้กับ GFN จะมีมาร์จิ้นที่ต่ำกว่า แต่ก็ไม่ถึงกับมากอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นในปี 54 จะยังอยู่ในระดับดีที่ 15.0% จาก 16.9% ในปี 53 เพราะบริษัทสามารถปรับเพิ่มราคาขายได้ในช่วงที่ราคาวัตถุดิบปรับขึ้น และบริษัทมีสต็อกต้นทุนต่ำมาช่วยรักษามาร์จิ้นให้อยู่ในระดับสูงด้วย
    *  Upside Risk : หวังว่าไทยจะได้ส่งออกไก่แช่แข็งไปสหภาพยุโรป ในเดือนก.พ. 54 สหภาพยุโรปจะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจรับรองเรื่องสุขภาพสัตว์ และการไม่ทรมานสัตว์ รวมทั้งตรวจสอบสภาวะการป้องกันโรคระบาดของผู้ประกอบการไก่ส่งออกของไทย ซึ่งเป็นการตรวจตามปกติในทุกๆ 2 ปี และหลังจากเก็บข้อมูลไปประมวลผลแล้วก็จะประกาศออกมา (แต่ยังไม่มีกำหนดการที่แน่นอน) ซึ่งในส่วนนี้มีความคาดหวังว่าสหภาพยุโรปจะเปิดตลาดนำเข้าไก่สดแช่แข็งจากไทย จากปัจจุบันที่นำเข้าเฉพาะไก่แปรรูปเท่านั้น นอกจากนั้นยังมีการเจรจาแปลงโควต้านำเข้าไก่หมักเกลือจำนวน 2.9 หมื่นตันต่อปีมาเป็นโควต้าไก่แปรรูปแทนด้วย ส่วนในระยะยาวก็ต้องรอผลการเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป ซึ่งหากสำเร็จจะทำให้ไทยส่งออกสินค้าเกษตรไปยุโรปได้มากขึ้น แต่คาดว่าจะใช้เวลาอีก 2-3 ปี
    *  แผนระยะยาว : ขยายกำลังการผลิตไก่แปรรูปส่งออกไปยุโรป บริษัทได้ซื้อที่ดิน 1 แปลงในปี 53 และจะซื้ออีก 1 แปลงในปี 54 ที่เทพารักษ์เพื่อสร้างโรงงานไก่แปรรูป 2 เฟส กำลังการผลิตเฟสละ 1.8 หมื่นตันต่อปี ใช้เงินลงทุน (ไม่รวมค่าที่ดิน) เฟสละ 350 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสร้างโรงงานเฟสที่ 1 แล้วเสร็จในปี 55 และเริ่มผลิตในปี 56 ซึ่งสอดคล้องการการเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป
    *  แนะนำซื้อลงทุน เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 53-54 ขึ้น 8.4% และ 7.8% ตามลำดับ สะท้อนอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่าคาดการณ์เดิม และปรับราคาตามพื้นฐานขึ้นเป็น 10.71 บาท โดยอิงกับ P/E ปี 54 ที่ 10 เท่า ซึ่งมี Upside จากราคาปิดวานนี้ 31%

-----------------------------------------------------------------------
จันทร์ 27 ก.ย.--GFPT :
ที่มา : Company Update บมจ.หลักทรัพย์ ฟิลลิป

จีเอฟพีที - GFPT
ราคาพื้นฐาน 11.20 บาท คำแนะนำ ซื้อ     ราคาปิด (24 ก.ย. 53) 8.80 บาท
แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ดีขึ้นเทียบ QoQ
     แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ดีขึ้นเทียบ QoQ จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น 
     ปริมาณการส่งออกไก่ 7 เดือนแรกขยายตัว 8.84% เทียบ YoY
     ราคาปัจจุบันซื้อขายบน P/E ปี 2554 เพียง 7.86 เท่ามีส่วนลดจากกลุ่มค่อนข้างมาก ทาง ฝ่ายคงแนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสม ปี 2554 11.20 บาท
คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ดีขึ้นเทียบ QoQ
     แม้ราคาขายเฉลี่ยไก่ไตรมาส 3 คาดว่าจะลดลงราว 10-15% เทียบ QoQ แต่คาดว่าปริมาณ ขายจะเพิ่มขึ้นราว 10% จากการเข้าสู่ฤดูส่งออก อีกทั้งการส่งออกกุ้งที่เพิ่มขึ้นจากปัญหา การผลิตในตลาดโลกที่ลดลงส่งผลให้ยอดขายอาหารสัตว์น้ำเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาวัตถุดิบทั้ง ข้าวโพดและกากถั่วเหลืองไม่ได้ปรับขึ้นมากนักเทียบ QoQ ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น ประกอบ  กับบริษัทมีการล็อกค่าเงินบาทที่ 32 บาทไว้จึงทำให้ยังรักษาอัตรากำไรได้ดีส่งผลให้กำไร สุทธิจะเพิ่มขึ้นเทียบ QoQ  
ปริมาณการส่งออกไก่ 7 เดือนแรกยังขยายตัว 8.84% เทียบ YoY
     สมาคมไก่ส่งออกรายงานปริมาณการส่งออกไก่ 7 เดือนแรกของไทยขยายตัว 8.84% เทียบ YoY อยู่ที่ 239,949 ตัน โดยตลาดส่งออกหลักทั้งญี่ปุ่นและสหภาพยุโรปยังขยายตัวได้ 8.55% และ 7.45% ขณะที่ตลาดอื่น ๆ ขยายตัว 17.18% เทียบ YoY
คงแนะนำ "ซื้อ"
     แม้ราคาหุ้นจะปรับขึ้นมา ณ ระดับหนึ่งแต่ยังคงซื้อขายบน P/E เพียง 9.5 เท่าในปี 2553 และเหลือ เพียง 7.86 เท่าในปี 2554 ทางฝ่ายยังมีมุมมองเป็นบวกต่อผลการดำเนินงานปี 2554 ว่าจะขยายตัว มากหลังการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นของ GFN คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสมปี 2554 อยู่ที่ 11.20 บาทอิงบน P/E 10 เท่า  

-----------------------------------------------------------------------
พุธ 22 ก.ย.--GFPT :
EARNINGS PREVIEW : บมจ.หลักทรัพย์เอเชียพลัส

คำแนะนำการลงทุน   ซื้อ
ราคาปัจจุบัน :      8.40 บาท
Fair Value :     11.18 บาท
มูลค่าตลาด :       10,532 ล้านบาท
ทิศทางกำไรและราคาหุ้นยังเป็นขาขึ้นในช่วง 2-3 ไตรมาสข้างหน้า
คาดกำไร 3Q53 เติบโตถึง 17.5% qoq ปริมาณขายเติบโตช่วงฤดูกาลส่งออก

     ฝ่ายวิจัยคาดกำไรสุทธิ 3Q53 เท่ากับ 337 ล้านบาท เติบโตถึง 17.5% qoq เนื่องจากเป็นช่วง ฤดูกาลส่งออก โดยคาดปริมาณการขายจะเติบโตถึง 18% qoq โดยมีปริมาณการส่งออกไก่
    แปรรูปปรุงสุก (สัดส่วน 60% ของรายได้รวม) เฉลี่ย 1.9 - 2 พันตัน/เดือน (เพิ่มขึ้นจากระดับเฉลี่ย 1.6-1.7 พันตัน/เดือน ใน 2Q53) ที่ระดับราคาขายเฉลี่ย 3.8 -4 พันเหรียญฯ/ตัน (ยังใกล้เคียงกับราคาเฉลี่ยใน 2Q53) ขณะที่ยอดขายสินค้าอาหารสัตว์ (สัดส่วน 40% ของรายได้รวม) ใน 3Q53 ยังเติบโตต่อเนื่อง 10% qoq โดยเฉพาะธุรกิจอาหารสัตว์น้ำที่ได้รับอานิสงค์จากการที่เกษตรกรเพิ่มพื้นที่การเลี้ยงกุ้งและเร่งวงจรการเลี้ยงให้สั้นขึ้น ด้านต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์หลักๆ ได้แก่ ราคาข้าวโพด (22.7% ของต้นทุนวัตถุดิบรวม) คาดปรับตัวลดลง 1.6% qoq ราคาปลาป่น (8.3% ของต้นทุนวัตถุดิบรวม) ปรับตัวลดลง 8.2% qoq  จึงส่งผลบวกต่อ Gross Margin ใน 3Q53 ให้ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 18%  จาก 16.2% ใน 2Q53 อย่างไรก็ตาม ในส่วนของต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายใน 3Q53 คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นราว 7% qoq เนื่องจากบริษัทฯต้องใช้เงินกู้ยืมระยะสั้นเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนมากขึ้นในการสำรองสินค้าคงคลังให้มากขึ้นในช่วง peak ของธุรกิจ โดยรวมแล้ว ฝ่ายวิจัยคาดกำไรสุทธิใน 9M53 จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 910 ล้านบาท เติบโตถึง 33.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและคิดเป็น 78% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 2553 ที่คาดไว้
คาดหวังการเติบโตของกำไรใน 4Q53 และ 1Q54 ได้แม้เป็น low season 
     ฝ่ายวิจัยคาดแนวโน้มกำไรสุทธิในช่วง 2 ไตรมาสข้างหน้า (4Q53 ถึง 1Q54) น่าจะแสดงการเติบโตจาก 3Q53 ได้ (หรือขั้นต่ำน่าจะทรงได้จากงวด 3Q53) แม้จะเป็นช่วง low season ของธุรกิจ เนื่องจากยังมีแรงขับเคลื่อนจากกำลังการผลิตที่ทยอยเพิ่มขึ้นจากโรงงานแห่งใหม่ของบริษัทร่วมทุน GFPT Nichirei (GFPT ถือหุ้น 49%) ที่จะเริ่มการผลิตเชิงพาณิชย์ในเดือน ต.ค. 53 อีกทั้งการขยายกำลังการผลิตของบริษัทร่วม McKey Foods (GFPT ถือหุ้น 49%) ซึ่งจะเริ่มดำเนินการผลิตได้อย่างเต็มที่ภายใน 4Q53 คาดว่าจะเริ่มสร้างรายได้จากการขายไก่สดของ GFPT ให้บริษัทร่วมทุนทั้งสองแห่งนี้ใน 4Q53 ราว 233 ล้านบาท และ 120 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยผลักดันการเติบโตกำไรสุทธิของ GFPT ใน 4Q53 และต่อเนื่องไปถึงปี 2554 
แนะนำซื้อ ราคาหุ้นปัจจุบันยังถูกมาก...ผลกระทบบาทแข็งค่าอยู่ในระดับต่ำ
     ฝ่ายวิจัยยังคงคำแนะนำ ซื้อ GFPT โดยราคาหุ้นปัจจุบันยังมี PER ปี 2553 เพียง 9 เท่า และจะลดลงเหลือเพียง 7 เท่าในปี 2554 เทียบกับ Fair value ปี 2553 ที่อิง PER 12 เท่า (เท่ากับค่าเฉลี่ยของกลุ่มอาหาร เนื่องจากโครงสร้างรายได้ส่วนใหญ่ที่ค่อนไปทางธุรกิจขั้นปลายได้แก่ ไก่แปรรูปปรุงสุกมากขึ้น)  คือ 11.18 บาท และ 13.79 บาทในปี 2554  โดยคาดแนวโน้มการเติบโตของ EPS ปี 2553-54 ที่เป็นไปในเชิงรุกถึง 9.4% yoy และ 23% yoy ตามลำดับ โดยราคาหุ้นปัจจุบันยังมีส่วนลดถึง 33% จาก Fair value ปี 2553 และสามารถคาดหวัง Div. Yield ปี 2553-54 เฉลี่ยราว 3-4% p.a. (จ่ายเงินปันผลปีละ 1 ครั้ง) สำหรับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าทุก 1 บาท ทำให้กำไรลดลงจากเดิมเพียง 3% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำ

-----------------------------------------------------------------------
พฤหัสฯ 16 ก.ย.2553--GFPT แนะนำ "ซื้อ" 
ที่มา : หนังสือพิมพ์ทันหุ้น  
        คาดกำไรสุทธิ 3Q53 ยังขยายตัว 19%QoQ ที่ 342 ล้านบาท
        * ธุรกิจขายอาหารสัตว์และไก่ส่งออก ช่วยดันยอดขาย 3Q53 โตต่อ 3%QoQ
        * มองผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทมีจำกัด เหตุบริษัทมีทำ Hedging ไว้
        * สัดส่วนยอดขายกลุ่มอาหารกุ้งและไก่แปรรูปที่มากขึ้น ดันอัตรากำไรขั้นต้นจะดีดตัวขึ้น
        * ประมาณการกำไรสุทธิ 3Q53 เพิ่มขึ้น 19%QoQ ที่ 342 ล้านบาท
        * ความคืบหน้าโรงงานร่วมทุนพันธมิตรญี่ปุ่นยังเป็นตามแผน  คาดสร้างรายได้ปลายปี 53
        * เรายังคงตัวเลขคาดการณ์กำไรสุทธิปี 53-54 โตเพิ่มขึ้น  13%YoY และ 15%YoY
        * ราคาหุ้นลงรับข่าวลบมากเกินไป  โดยซื้อขาย PER เพียง 7-8x  จึงปรับแนะนำเป็น "ซื้อ"
Investment Theme :
        * เหตุการณ์ :  GFPT ประกอบธุรกิจผลิตและขายอาหารสัตว์และไก่ทั้งในประเทศเเละส่งออก โดยจากการสอบถามบริษัทเกี่ยวกับแนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q53  เราสรุปประเด็นสำคัญ ได้ดังนี้
        * มองแนวโน้มยอดขาย 3Q53 ยังเติบโตต่อจาก 2Q53 ได้ โดยแม้ทิศทางราคาขายไก่เฉลี่ยภายในประเทศจะปรับตัวลงจากช่วง 2Q53 กว่า -15%QoQ และค่าเฉลี่ยเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นค่อนข้างมาก 2-3%QoQ อย่างไรก็ตาม ด้วยผลบวกจากความต้องการอาหารสัตว์ในประเทศที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะด้านสัตว์น้ำอย่างกุ้งที่ได้ประโยชน์จากผลผลิตกุ้งในประเทศคู่แข่ง ที่ลดลงและปัญหาการเกิดแท่นขุดน้ำมันรั่วในอ่าวเม็กซิโก ก็ทำให้มีคำสั่งซื้อกุ้งส่งออกเพิ่มขึ้น ตัวเลขส่งออกกุ้ง 7M53  ขยายตัว 14%YoY เป็น 0.23 ล้านตัน ประกอบกับด้านราคาขายกุ้งที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ก็ทำให้บริษัทมีคำสั่งอาหารกุ้งมากขึ้นจนปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนรายได้ราว 14-15%ของยอดขายรวมแล้ว ในขณะเดียวกัน ด้านภาวะส่งออกไก่ก็ยังสดใสเช่นกัน  ปริมาณการส่งออกไก่ช่วง 7M53 เพิ่มขึ้น +13%YoY ก็ผลักดันคำสั่งผลิตไก่ปรุงสุกเฉลี่ยเดือน ก.ค.-ส.ค.53 ของบริษัทปรับเพิ่มขึ้นจากราว 1,692 ตันต่อเดือนในช่วง 2Q53 เป็นราว 1,900-2,000 ตันต่อเดือน ดังนั้น เราจึงประมาณการยอดขาย 3Q53 ยังเติบโตได้ 3%QoQ  เป็น 3,092 ล้านบาท
        * มองผลกระทบจากค่าเงินบาทมีจำกัด เหตุมีทำ Hedging ไว้  ถึงแม้ว่าบริษัทมีรายได้จากการส่งออกราว 19%ของรายได้รวมและส่วนใหญ่รับรู้เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามไปยังบริษัทเกี่ยวกับผลกระทบเกี่ยวกับการแข็งค่าของเงินบาท พบว่า ทุกคำสั่งซื้อที่บริษัทได้รับทั้งหมด บริษัทจะทำสัญญาขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าไว้ (ปัจจุบัน มีค่าเฉลี่ยอัตราแลกเปลี่ยนที่ราว 32 บาทต่อดอลลาร์) อีกทั้ง ด้วยคู่ค้าส่วนใหญ่เกือบครึ่งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหากเทียบเงินเยนกับเงินดอลลาร์ก็แข็งค่าขึ้นมากเช่นกัน ก็ช่วยให้บริษัทสามารถปรับขึ้นราคาขายได้ด้วยในบางรายการสินค้า ดังนั้น จึงประเมินได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทจำกัด
        * คาดกำไรสุทธิ 3Q53 โต 19%QoQ ที่ 342 ล้านบาท ด้วยทิศทางรายได้ที่ยังเติบโตประกอบกับสัดส่วนยอดขายสินค้าในกลุ่มอาหารกุ้ง และไก่ส่งออกที่จะปรับตัวมากขึ้น ซึ่งปกติทั้ง 2 กลุ่มนี้จะมีอัตรากำไร ขั้นต้นสูงกว่ากลุ่มสินค้าอื่น ก็ผลักดันเราประมาณการอัตรากำไรขั้นต้น 3Q53 ดีดตัวจาก 16.2%ใน 2Q53 เป็น 17.5% ขณะที่สัดส่วนค่าใช้จ่ายอื่นที่จะไม่เปลี่ยนแปลงนักจาก 2Q53 และคาดมีบันทึกกำไรพิเศษสุทธิจากอัตราแลกเปลี่ยนใน 3Q53 ราว 8 ล้านบาท ก็ทำให้เราได้คาดการณ์กำไรสุทธิ 3Q53 เพิ่มขึ้น 19%QoQ เป็น 342 ล้านบาท 
        * ความคืบหน้าโรงงานร่วมทุนกับ บ.ญี่ปุ่นยังเป็นตามแผน โดยปัจจุบัน อยู่ระหว่างทดสอบการเดินเครื่องบางส่วนแล้ว และคาดจะเริ่มเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในเดือนพ.ย.-ธ.ค.53 นี้ ซึ่งทางผู้บริหารประเมินโครงการดังกล่าวจะสร้างเริ่มผลประโยชน์ต่อบริษัท เต็มที่ในปี 54
        * ผลกระทบ : จากผลการดำเนินงาน 3Q53 ที่ยังสดใสประกอบกับ 4Q53 บริษัทก็จะเริ่มรับรู้ผลบวกจากการทยอยส่งมอบไก่สดให้โรงงานของบริษัทในเครือ (GFN) มากขึ้น ดังนั้น เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 53-54 ที่ 1,205 ล้านบาทและ 1,384 ล้านบาท ซึ่งเติบโตราว 13%YoY และ 15%YoY ตามลำดับ
        * คำแนะนำ :ราคาหุ้นช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลงรับปัจจัยลบเกี่ยวกับประเด็นทิศทางค่าเงิน บาทมากเกินไปจนปัจจุบันซื้อขายบน PER เพียง 7-8 เท่า (เทียบกับค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 10-12 เท่า) อีกทั้ง อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สม่ำเสมอราว 4%ต่อปี  ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มแนะนำเป็น "ซื้อ"  โดยคงราคาเป้าหมายที่ 11 บาท

        GFPT : เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารสัตว์และไก่ทั้งในและส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยมีส่วนแบ่งตลาดเป็นรายใหญ่ 1 ใน 5 ของประเทศสำหรับธุรกิจอาหารสัตว์และเป็นผู้ส่งออกไก่รายใหญ่อันดับที่ 5 ของไทย
หมายเหตุ  MOC = กระทรวงพาณิชย์
        ---โดย  บริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน) ประจำวันที่ 16 กันยายน  2553