ROJNA : บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน)
หมวดธุรกิจ : พัฒนาอสังหาริมทรัพย์  www.rojana.com

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
-----------------------------------------------------------------------
พฤหัสฯ 16 ส.ค.2555--ROJNA :
ที่มา : Result Analyser : บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส

ROJNA               คำแนะนำซื้อ
ราคาปิด 8.90 บาท     ราคาพื้นฐาน 10.23 บาท
กำไรสุทธิ 2Q55 สดใสกว่าคาด
    * บริษัทประกาศกำไรสุทธิ 2Q55 สูงกว่าคาดมากเป็น 704 ล้านบาท เทียบกับที่เราประเมินไว้ก่อนหน้าที่ 373 ล้านบาท และเติบโตก้าวกระโดด 297% y-o-y และ 108% q-o-q สำหรับไตรมาสนี้มีการบันทึกเงินชดเชยจากการหยุดชะงักธุรกิจ (BI) จากโรงไฟฟ้าที่ยังไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ 273 ล้านบาท หากไม่นับกำไรหลัก 2Q55 เป็น 431 ล้านบาท เพิ่ม 143% y-o-y และฟื้นตัวจาก 1Q55 ที่ขาดทุน 341 ล้านบาท
    * สาเหตุที่กำไรไตรมาสนี้ออกมาโดดเด่นมาก เพราะ 1) รายได้จากการขายนิคมสูงถึง 1,200 ล้านบาท (+259% y-o-y, +383% q-o-q) อีกทั้งอัตรากำไรขั้นต้นสูงเป็นพิเศษคือ 69% เทียบกับ y-o-y และ q-o-q ที่ 58% และ 60% ตามลำดับ เพราะมีการรับรู้รายได้จากการขายนิคมฯให้กับลูกค้า Gulf ที่ 350 ไร่ ขณะที่ 50 ไร่ซึ่งขายในภายหลังอันเป็นส่วนเพิ่มและขายได้ในราคาที่สูง และ 2) มีการบันทึกรายได้อสังหาริมทรัพย์อย่างที่ไม่ได้คาดไว้ถึง 443 ล้านบาท เนื่องจากมีการขายคอนโดเฟส 1 ที่จีนได้เพิ่มเติม รวมทั้งพื้นที่รอบคอนโดเช่นที่จอดรถทั้งในส่วนเฟส 1 และ เฟส 2
    * สำหรับธุรกิจที่ยังให้ผลขาดทุนก็คือ โรงไฟฟ้า และบริการ โดยโรงไฟฟ้ากว่าจะกลับมาเปิดดำเนินการได้จะเป็นช่วงปลายปีนี้ แต่ระหว่างนี้จะได้รับค่าชดเชย BI ตกเดือนละประมาณ 90 ล้านบาท แต่กำไรที่ดีจากธุรกิจนิคมฯและอสังหาริมทรัพย์ก็มีผลดีมากกว่า จึงทำให้กำไร 2Q55 ออกมาสดใส โดยกำไรสุทธิ 1H55 เป็น 1,042 ล้านบาท โตถึง 156% y-o-y และเป็นสัดส่วน 60% จากประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 55
    * ด้านงบดุล ปลาย 2Q55 อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนอยู่ในระดับสูงเช่นเคยเป็น 2.7 เท่า ทรงตัวเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่บริษัทไม่กังวล เพราะทางเจ้าหนี้เงินกู้สนับสนุนเงินกู้เต็มที่ รวมทั้งการกู้ในอนาคตเพื่อไปซื้อบริษัท-ที่ดินที่ระยอง และปราจีนบุรีเพิ่มเติม แม้อัตราส่วนจะเกินข้อกำหนดที่ 2.75 เท่าก็ตาม ส่วนมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นเป็น 4.60 บาท
    * เราไม่ได้มีการปรับประมาณการปี 55 แต่อย่างใด แม้กำไร 2Q55 ออกมาดีกว่าคาด เพราะเห็นว่าเป็นการเร่งโอนได้เร็วขึ้น แต่ประมาณการการโอนนิคมฯปีนี้ทั้งปีจะยังอยู่ที่ 700 ไร่ อันเป็นยอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่มาจากปีที่แล้ว ส่วนปี 57 ปรับลดกำไรลง 1% ตามดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นเล็กน้อย  ส่วนกำไรจากคอนโดที่เพิ่มก็ถูกหักล้างจากขาดทุนธุรกิจไฟฟ้าที่เพิ่มกว่าคาดไว้
    * คงคำแนะนำ ซื้อ แนวโน้มมีการฟื้นตัวดีใน 3 ธุรกิจหลักคือ 1) นิคมที่อยุธยา การก่อสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมมีความคืบหน้าและจะแล้วเสร็จ ส.ค.55 นี้ สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า อีกทั้งบริษัทได้ใช้วิธีซื้อกิจการจากบริษัทอื่นๆซึ่งมีที่ดินในเขตน้ำไม่ท่วมคือ ระยอง และปราจีนบุรี จึงมีโอกาสที่ยอดขายนิคมปีนี้และปีหน้าจะมากกว่าประมาณการที่ 1,000 ไร่ทั้งสองปี 2) ธุรกิจไฟฟ้าจะกลับมาผลิตได้อย่างปกติในปี 56 ทำให้ผลการดำเนินงานฟื้นตัวดี และ 3) ธุรกิจคอนโดมิเนียมที่จีนเฟส 2 จะมีการโอนเป็นจำนวนมากในปี 56 ดังนั้นเราจึงคาดว่ากำไรหลักในปี 56 จะโตถึง 5 เท่าตัวเทียบกับปี 55 กำหนดราคาพื้นฐานไว้ที่ 10.23 บาท ซึ่งประเมินด้วยวิธี sum of parts ราคาปิดมีส่วนเพิ่มได้อีก 16% ทั้งนี้เรายังไม่นำเรื่องการซื้อบริษัทเพื่อให้ได้ที่ดินปราจีนบุรี 3,235 ไร่เข้าไว้ในประมาณการจนกว่าจะมีความชัดเจนเรื่องการขาย ส่วนเรื่องเงินลงทุนอีก 4 พันล้านบาทนั้น จะใช้เงินทุนจากการกู้, เงินดาวน์จากลูกค้า และการแปลงวอร์แรนท์มาเป็นหุ้นสามัญ
-----------------------------------------------------------------------