MINT : บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)
หมวดธุรกิจ : อาหารและเครื่องดื่ม  www.minorinternational.com

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
-----------------------------------------------------------------------
พฤหัสฯ 23 ก.ย.--"ซื้อ" MINT :
ที่มา : หนังสือพิมพ์ทันหุ้น

ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล - MINT - ซื้อ
ราคาพื้นฐาน            16 บาท         
คำแนะนำ              ซื้อ         
ราคาปิด (22 ก.ย. 53)  12.20 บาท
คาด 3Q53 ดีขึ้น QoQ 
          - 3Q53(QTD) อัตราการเข้าพักโรงแรมเกินจุด Break Even Point ที่ 45% และธุรกิจอาหาร ฟื้นตัวต่อเนื่อง QoQ
          - การรับรู้รายได้จากคอนโดยังเป็นไปตามแผนรอโอนใน 4Q53 และอย่างช้าไม่เกิน 1Q54
          - กำไร 4Q53 อาจจะต่ำกว่าคาดการณ์เดิม แต่ไปส่งผลบวกมากในปี 2554
          - ปรับราคาพื้นฐานเป็นปี 2554 ที่ 16 บาท แนะนำ “ซื้อ”
3Q53(QTD) อัตราการเข้าพักโรงแรมเกินจุดคุ้มทุนที่ 45% และธุรกิจอาหารฟื้นตัวต่อ เนื่อง QoQ
          ใน 3Q53 ธุรกิจโรงแรมฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยในเดือนส.ค.53 อัตราการเข้าพักของโรงแรมโฟร์ ซีซั่น กรุงเทพ ได้กลับมาในระดับภาวะการณ์ปกติอยู่ที่ 70% และเฉลี่ยของทั้งกลุ่มอยู่ที่ 50% สูงกว่า 2Q53 ที่อัตราการเข้าพักของกลุ่มเฉลี่ย 41% โดยค่าเฉลี่ยอัตราการเข้าพักของกลุ่ม QTD คาดว่าจะประมาณ 48% เทียบกับงวดเดียวกันปีที่แล้ว(3Q52) ลดลงเล็กน้อยจาก 51% แต่เทียบ QoQ ดีขึ้นจาก 41% ส่วนอัตราค่าห้องพักคาดว่าจะลดลง 11%QoQ แต่อย่าง ไรก็ตามจากอัตราการเข้าพักที่เกิน 45% ซึ่งเป็นระดับคุ้มทุน ดังนั้นโดยรวมแล้วคาดว่าธุรกิจ โรงแรมในงวดนี้จะกลับมามีกำไรจาก 2Q53 ที่ ขาดทุน 93 ล้านบาท  ส่วนธุรกิจอาหารมีแนว โน้มเติบโตต่อเนื่อง โดย SSSG ของร้านอาหาร Thai Express มีแนวโน้ม กลับมาเป็น บวกที่ 1% จาก 2Q53 ติดลบ 6.8% และร้านอาหารอื่นเช่น The Pizza Company, Swensen’s ยังมีอัตราการเติบโตที่ดี ส่งผลให้ยอดขายของธุรกิจอาหารรวมมีอัตราการเติบโตของสาขา เดิม(SSSG)คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 5-6% จาก 2Q53 ที่ 1.3% 
การรับรู้รายได้จากคอนโดยังเป็นไปตามแผนรอโอนใน 4Q53 และอย่างช้าไม่เกิน 1Q54
          ปัจจุบันบริษัทได้ขายคอนโด เซนส์รีจีส ได้แล้วจำนวน 6 ห้อง ซึ่งอยู่ระหว่างรอโอนกรรมสิทธิ์ ในเดือนธ.ค.53 แต่เนื่องจากที่ดินของคอนโดเป็นพื้นที่เช่าระยะยาวจากพระคลังข้างที่ดังนั้น จึงต้องมีขั้นตอนการขออนุญาติ Occupation Permit ซึ่งอาจจะล่าช้าไม่ทันใน 4Q53 แต่อย่าง ไรก็ตามคาดว่าอย่างช้าจะบันทึกรายได้ใน 1Q54 โดยบริษัทคาดว่าจะใช้ เวลาประมาณ 3 ปี สำหรับการขายคอนโดเซนส์ รีจีส อีก 37 ห้อง และอีก 10 ห้อง จะตกแต่งเพื่อปล่อยเช่าซึ่ง คาดว่าค่าเช่าจะอยู่ที่ประมาณ 400,000 บาทต่อเดือน โดยในปี 2554 บริษัทมีเป้าหมายที่จะ ขายคอนโดอีก 12 ห้อง และบ้านพักตากอากาศที่สมุย 1-2 หลัง 
กำไร 4Q53 อาจจะต่ำกว่าคาดการณ์เดิม แต่ไปส่งผลบวกมากในปี 2554
          ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถโอนคอนโดได้ทันในเดือนธ.ค.53 จะส่งผลให้แนวโน้มกำไรใน 4Q53 จะต่ำกว่าคาดการณ์เดิมที่คาดว่าจะเป็นงวดที่ดีสุดของปี แต่อย่างไรก็ตามรายได้ที่เลื่อนไปรับรู้ใน 1Q54 จะทำให้กำไรสุทธิในปี 2554 เติบโตสูงกว่าคาดการณ์เดิม โดยประมาณการเดิมกำไรสุทธิปี 2554 ทางฝ่ายคาดไว้ที่ 2,238 ล้านบาท เติบโต 46.9%
ปรับราคาพื้นฐานเป็นปี 2554 ที่ 16 บาท แนะนำ “ซื้อ”
          ปรับราคาพื้นฐานเป็นปี 2554 เท่ากับ 16 บาท(DCF) บนสมมุติฐาน wacc ที่ 10.1%, Growth rate ที่ 3% แนะนำ “ซื้อ” โดยทางฝ่ายคาดว่าบริษัทจะรักษาการเติบโตได้ต่อเนื่องจากแผนการ ขยาย ธุรกิจปัจจุบันคือขยายสาขาของร้านอาหาร ลงทุนโรงแรมใหม่ และการเข้าซื้อกิจการ โดยในปีนี้คาด ว่าบริษัทจะมีประกาศเข้าซื้อธุรกิจอาหารอีก 1 แบรนด์ ซึ่งดำเนินการอยู่แล้ว เป็นที่รู้จักได้รับความ นิยมและจะสามารถสร้างรายได้ได้ทันที
          --โดย บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประจำวันที่ 23 ก.ย. 2553