GFPT : บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน)
หมวดธุรกิจ : ธุรกิจการเกษตร  www.gfpt.co.th

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
-----------------------------------------------------------------------
พฤหัสฯ 13 ต.ค.2554--GFPT :
ที่มา : Company Preview : บมจ.หลักทรัพย์ ฟิลลิป

จีเอฟพีที - GFPT
ราคาพื้นฐานปี 2555 12.40 บาท     คำแนะนำ : ซื้อ   ราคาปิด (12 ตุลาคม 2554) 9 บาท
คาดไตรมาส 3'2554 กำไรเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ
     - คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 3'2554 คาดกำไรสุทธิ 390 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 5% และ 8% เทียบ YoY และ QoQ จากปริมาณขายอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่ปริมาณขายไก่ส่งออกลดลง YoY และทรงตัว QoQ 
     - แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4 อ่อนลงโดยเฉพาะยอดขายกลุ่มอาหารสัตว์ที่ลดลง ขณะที่ GFN คาดขาดทุนลดลง
     - คาด GFN กลับมากำไรในปี 2555 จากการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น
     - ทางฝ่ายคงแนะนำ "ซื้อ" ปรับราคาเหมาะสมปี 2555 ลงเหลือ 12.40 บาทอิงบน P/E 10 เท่า
คาดไตรมาส 3'2554 กำไรสุทธิ 390 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 5% และ 8% YoY และ QoQ 
     แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3'2554 คาดเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ แม้ราคาขาย เฉลี่ยในประเทศจะลดลง 21% แต่ราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 5% QoQ ขณะที่ปริมาณขายทรงตัว แต่ได้รับผลที่ดีจากปริมาณขายอาหารสัตว์บก, อาหารปลา และอาหารกุ้งเพิ่มขึ้น 20%, 15% และ 8% QoQ จากปริมาณขายโดยเฉพาะอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้นมากทำให้ยังคงอัตรากำไร ใกล้เคียง QoQ แต่คาดว่าจะรับรู้ขาดทุนจากการดำเนินงานของ GFN เพิ่มขึ้นจากราคาผลิต ภัณฑ์ที่ลดลง ขณะที่อัตราภาษีจ่ายจะลดลงเนื่องจากได้รับสิทธิประโยชน์การลงทุนใหม่ ่ของไก่ชำแหละ ประมาณการกำไรสุทธิ 390 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 5% และ 8% เทียบ YoY และ QoQ
แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4 อ่อนลง

     สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4 คาดว่าจะอ่อนลงจากปริมาณขายอาหารสัตว์ ที่ลดลงโดยเฉพาะอาหารกุ้ง อีกทั้งการขายในประเทศที่จะอ่อนลงจากปัญหาน้ำท่วมที่เกิด ขึ้น แต่คาดว่าจะรับรู้ขาดทุนจาก GFN ลดลง QoQ เนื่องจากการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นราว 30% ทางฝ่ายปรับลดประมาณการผลการดำเนินงานปี 2554 ลงเล็กน้อยจากน้ำท่วมที่เกิด ขึ้นซึ่งคาดว่าจะกระทบกับการขายในประเทศให้ลดลง คาดหมายยอดขาย 14,001 ล้านบาท และปรับลดกำไรสุทธิเหลือเพียง 1,337 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 15% เทียบ YoY
คาด GFN กลับมากำไรในปี 2555
     ผู้บริหารคาดว่า GFN จะกลับมากำไรได้ในปี 2555 คาดว่าจะใช้กำลังการผลิต 1 แสนตัว/วัน เพื่อจะ เพิ่มปริมาณการส่งออกให้เป็น 1,500 ตัน/เดือนจากปัจจุบันที่ 900 ตัน/เดือน โดยจะขยายตลาด ส่งออกเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในยุโรป คาดในครึ่งปีแรกผลการดำเนินงานจะถึงจุดคุ้มทุนได้ ทางฝ่าย คาดหมายกำไรจาก GFN ในปี 2555 ที่ 100 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2555 จะไม่มีการลงทุน เพิ่มเพื่อขยายกำลังการผลิต แต่จะมีการลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตในปลายปี 2556 ราว 400 ล้านบาทเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีกราว 25%
คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2555 ยังขยายตัวหลัง GFN กลับมากำไร
     สำหรับปี 2555 ทางฝ่ายคาดว่าผลการดำเนินงานของ GFPT ยังขยายตัวได้ต่อเนื่องหลัง GFN กลับ มากำไร ขณะที่การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกคาดว่าจะไม่ส่งผลอย่างมีนัยต่อการขายแต่อาจ ทำ ให้การสั่งซื้อช้าลงกว่าสถานการณ์ปกติ แต่คาดว่าจะได้รับผลกระทบเชิงลบจากนโยบายของ รัฐบาลในการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท/วัน คาดว่าจะกระทบกับบริษัทราว 2% ของต้นทุน ขาย ทางฝ่ายประมาณการยอดขาย 15,349 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 10% และคาดว่าจากผลของค่าแรงที่ เพิ่มขึ้นจะทำให้อัตรากำไรลดลง แต่คาดว่าจะได้ผลดีจากภาษีจ่ายที่ลดลงโดยเฉพาะกลุ่มอาหาร สัตว์ที่ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน รวมถึงรับรู้กำไรจาก GFN ราว 100 ล้านบาท ประมาณ การกำไรสุทธิ 1,556 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 16% เทียบ YoY
คงแนะนำ "ซื้อ"
     ทางฝ่ายยังมีมุมมองเป็นบวกต่อกลุ่มอาหารว่าจะได้รับผลกระทบที่น้อยหากเทียบ กับกลุ่มอื่น อีกทั้งผลการดำเนินงานปี 2555 ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง และหากพิจารณาราคาปัจจุบันพบว่าซื้อ ขายบน P/E เพียง 7 เท่าต่ำสุดในกลุ่มส่งออกอาหารด้วยกัน ทางฝ่ายคงแนะนำ "ซื้อ" แต่ปรับ ลดระดับ P/E ลงเหลือเพียง 10 เท่าเพื่อสะท้อนปัจจัยลบต่อการลงทุนมากขึ้น ราคาเหมาะสมปี 2555 เท่ากับ 12.40 บาท

 -----------------------------------------------------------------------
พฤหัสฯ 13 ต.ค.2554--GFPT :
ที่มา : บล.ยูไนเต็ด จก.(มหาชน)

BUY : Target Price  (Bt]   14.5  
คาดกำไร 3Q54 ดีสุดในรอบปี แต่ปี 55 เผชิญความเสี่ยงปรับขึ้นค่าแรง
   * ธุรกิจอาหารสัตว์และการส่งมอบไก่สดให้ GFN เป็นดาวเด่น ดันรายได้โต 13%QoQ
   * อัตราทำกำไรที่ดีธุรกิจส่งออก&อาหารสัตว์น้ำ ช่วยรักษาอัตรากำไรขั้นต้นทรงตัวที่ 17%
   * คาดกำไรสุทธิ 3Q54 ดีสุดในรอบปีที่ 402 ล้านบาท (11%QoQ และ 9%YoY)
   * เบื้องต้น มองผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมจำกัด เหตุที่ตั้งโรงงานอยู่สมุทรปราการ&ชลบุรี
   * แม้มองจะได้รับประโยชน์จากมาตรการลดภาษีรัฐ แต่ก็ไม่ชดเชยนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำได้ ฉุดเรา
ปรับลดประมาณการกำไรปี 55 ลง 10% เป็น 1,514 ล้านบาท (+14%YoY)
   * ยังเป็นหุ้นที่ราคาถูกในเชิงเปรียบเทียบพร้อมจ่ายปันผลสม่ำเสมอ 3-4% จึงแนะนำ "ซื้อ"
Investment Theme :
   * เหตุการณ์ : จากการร่วมประชุมกับทางบริษัท เราสรุปประเด็นสำคัญ ได้ดังนี้
   -  ธุรกิจอาหารสัตว์และการส่งมอบไก่สดให้ GFN ช่วยดันกำไร 3Q54 จะดีสุดของปี  โดยแม้ธุรกิจจำหน่ายไก่ภายในประเทศจะถูกกดดันจากปริมาณผลผลิตไก่ที่ออกสู่ตลาดค่อนข้างมากในช่วงกลางปี 54 ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ราคาขายไก่หน้าฟาร์มเฉลี่ยช่วง 3Q54 ปรับตัวลงมากกว่า -22%QoQ เหลือ 41 บาทต่อก.ก. และกดดันเราประเมินผลการดำเนินงานธุรกิจจำหน่ายชิ้นส่วนไก่ใน 3Q54 ไม่โดดเด่นเมื่อเทียบกับ 2Q54  อย่างไรก็ตาม ด้วยเป็นช่วง High season ของธุรกิจจำหน่ายอาหารสัตว์  (~30%ของรายได้) โดยเฉพาะกลุ่มอาหารสัตว์น้ำ (ซึ่งปกติให้อัตราทำกำไรที่ค่อนข้างสูง) ที่โตกว่า  44-50%QoQ ดังนั้น จึงมองช่วย  ชดเชยผลกระทบจากปัญหาราคาไก่อ่อนตัวลงแรงได้ นอกจากนั้น  ใน 3Q54 ก็มีแรงสนับสนุนจากการส่ง  มอบไก่สดให้โรงงาน GFN ที่เพิ่มขึ้นอีกกว่า 50%QoQ เป็น 0.075 ล้านตัวต่อวัน (เทียบเท่ารายได้ราว 600 ล้านบาทต่อไตรมาส)  รวมทั้ง ด้านธุรกิจไก่ส่งออกก็มีปัจจัยบวกด้านราคาที่ปรับขึ้นราว 6-7%QoQ เป็น 4,800 เหรียญ/ตัน ดังนั้น เราจึงประมาณการยอดขาย 3Q54 ที่ 3,966 ล้านบาท (+13%QoQ และ +20%YoY) สำหรับด้านประสิทธิภาพในการทำกำไรที่จะไม่เปลี่ยนแปลงจาก 2Q54 มากนัก ก็ส่งผลเราได้ตัวเลขคาดการณ์กำไรสุทธิ 3Q54 ที่ 402 ล้านบาท  (+11%QoQ) ซึ่งนับเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี
   - ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในวงจำกัด  โดยแม้จากการประเมินความเสียหายจากปัญหาอุทกภัยเบื้องต้นของนายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่จะกระทบผลผลิตไก่ราว 20-30%ของผลผลิตรวมแต่ละพื้นที่ (ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ , 9 ต.ค.54) อย่างไรก็ตาม ผู้บริหาร GFPT มองกระทบต่อภาพรวมการดำเนินงานบริษัทมีในวงจำกัด เนื่องจากที่ตั้งโรงงานของบริษัทอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดชลบุรี  โดยมีโรงงานที่อยู่ในพื้นที่เฝ้าระวัง 2 แห่ง คือ โรงงานผลิตอาหารสัตว์ที่พระประแดงและโรงงานชำแหละไก่ที่เทพารักษ์  ในขณะเดียวกัน สำหรับด้านกลุ่มลูกค้าของธุรกิจจำหน่ายอาหารสัตว์และชิ้นส่วนไก่ส่วนใหญ่ก็อยู่คนละบริเวณกับพื้นที่เกิดน้ำท่วมในปัจจุบัน (ลูกค้าอาหารสัตว์ส่วนใหญ่อยู่ที่ภาคใต้และภาคตะวันตก , ลูกค้าจำหน่ายไก่อยู่ภาคกลางและตะวันออกเป็นส่วนใหญ่) ดังนั้น ผู้บริหารจึงประเมินปัญหาน้ำท่วมอาจกระทบเพียงการดำเนินงานโดยอ้อมผ่านความต้องการโดยรวมหดตัวในช่วงสั้น
   - การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำกดดันอัตราทำกำไรปี 55 หดตัวลง แม้บริษัทจะมีสัดส่วนต้นทุนแรงงานขั้นต่ำรายวันอยู่ที่ 3%ของต้นทุนรวม อย่างไรก็ตาม หากต้องปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตามนโยบายภาครัฐในปี 55 ผู้บริหารก็ประเมินว่า เพื่อรักษาความเหลื่อมล้ำทางรายได้ของแรงงานที่มีประสบการณ์ในงานกับผู้เริ่มต้นไว้ก็อาจจำเป็นต้องปรับค่าแรงงานขึ้นทุกส่วนหรือคิดเป็นราว 8-10% ของต้นทุนรวมและกดดันต่อความสามารถในการทำกำไรในช่วงสั้นชะลอตัวลงจากปี 54  ราว 1-2% อย่างไรก็ตาม ด้วยคาดจะได้รับประโยชน์ในบางธุรกิจจากการใช้นโยบายลดภาษีนิติบุคคลจาก 30% เหลือ 23% ในปี 55  ก็ทำให้ประเมินช่วยบรรเทาผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงบางส่วนได้
   * ผลกระทบ : เพื่อสะท้อนผลกระทบของต้นทุนค่าแรงขั้นต่ำที่สูงขึ้นและการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ต่ำลง ก็ส่งผลเราประเมินสร้างแรงกดดันต่อการเติบโตของผลการดำเนินงานปี 55 ในช่วงสั้นลดลงจากเดิมราว 10% เหลือ 1,514 ล้านบาท แต่ยังคงเติบโตได้ 14%YoY
  * คำแนะนำ : ราคาหุ้นในปัจจุบันซื้อขายบน PER ปี 55 เพียง 7-8 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ศึกษาที่ 10เท่าแถมจ่ายปันผลสม่ำเสมอราว 3-4% จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ"  โดยมีราคาเป้าหมายปี 55 ใหม่ที่ 14.5 บาทอิง PER ที่ 12 เท่า (เดิม ราคาเป้าหมายที่ 16 บาท)

-----------------------------------------------------------------------
พุธ 12 ต.ค.2554--GFPT :
ที่มา : 3Q54 EARNINGS PREVIEW : บมจ.หลักทรัพย์เอเชียพลัส

จีเอฟพีที (GFPT)
คำแนะนำการลงทุน        ซื้อ
ราคาปัจจุบัน  :      9 บาท
Fair Value :  12.92 บาท
มูลค่าตลาด   : 11,284 ล้านบาท
คาดกำไรสุทธิ 3Q54 จะทำระดับสูงสุดของปี...แต่จะลดลงใน 4Q54
* คาดกำไร 3Q54 เติบโต 7.4% qoq๊ ธุรกิจอาหารสัตว์เติบโตโดดเด่น

        ฝ่ายวิจัยคาดกำไรสุทธิ 3Q54 ของ GFPT เท่ากับ 389 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.4% qoq โดยปัจจัยผลักดันที่สำคัญมาจากธุรกิจอาหารสัตว์ที่เติบโตอย่างโดดเด่น ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคาดว่ายอดขายจากธุรกิจอาหารสัตว์ (คิดเป็นสัดส่วน 35% ของยอดขายรวม) ในงวด 3Q54 จะเติบโตกว่า 30% qoq เนื่องจากธุรกิจอาหารสัตว์น้ำที่ได้รับอานิสงค์จากการที่เกษตรกรเพิ่มพื้นที่การเลี้ยงสัตว์น้ำมากขึ้น รวมถึงการเข้าสู่ช่วงฤดูกาลส่งออกของธุรกิจสัตว์น้ำ ส่งผลให้ปริมาณขายอาหารสัตว์น้ำเพิ่มขึ้นกว่า 45% qoq ขณะที่ยอดขายจากธุรกิจชำแหละไก่ และแปรรูปไก่ (คิดเป็นสัดส่วน 60% ของยอดขายรวม) ในงวด 3Q54 ปรับตัวลดลงราว 10% qoq เนื่องจากราคาเฉลี่ยไก่เป็นในประเทศสำหรับงวด 3Q54 ปรับตัวลดลงกว่า 18.4% qoq แม้ว่าปริมาณการขายยังทรงตัวในระดับสูงใกล้เคียงจากงวดที่ผ่านมา จึงทำให้คาดการณ์ยอดขายรวมในงวด 3Q54 เติบโต 13.7% qoq สำหรับแนวโน้ม Gross margin ในงวดนี้ ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่าน่าจะทรงตัวใกล้เคียงจากงวดที่ผ่านมาที่ระดับ 17% เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ไม่เปลี่ยนแปลงกันมากนัก นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยคาดว่า GFPT จะยังคงรับรู้ขาดทุนจากบริษัทร่วมเข้ามาประมาณ 30 ล้านบาทในงวด 3Q54 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากบ.ร่วมทุน GFPT Nichirei ราว 60 ล้านบาท แต่ยังคงรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบ.ร่วมทุน McKey จำนวน 30 ล้านบาท โดยรวมแล้ว คาดการณ์กำไรสุทธิใน 9M54 ของ GFPT เท่ากับ 1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และคิดเป็นสัดส่วน 74% ของประมาณการปี 2554 ที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้
* ปัญหาน้ำท่วมในครั้งนี้ยังไม่ได้สร้างความเสียหายกับ GFPT
        ฝ่ายวิจัยประเมินว่าแนวโน้มกำไรสุทธิในงวด 4Q54 น่าจะอยู่ที่ระดับ 350 ล้านบาท หรือลดลง 10% qoq เป็นผลจากพ้นช่วงฤดูกาลส่งออก ทำให้ปริมาณขายของทั้งธุรกิจอาหารสัตว์ และธุรกิจชำแหละไก่และแปรรูปไก่ปรับตัวลดลงจากงวดก่อนหน้า  ทั้งนี้ จากการสอบถามกับทาง GFPT พบว่า ขณะนี้โรงงาน และฟาร์มเลี้ยงสัตว์ของ GFPT ยังไม่ได้รับความเสียหายจากปัญหาน้ำท่วมแต่อย่างใด และยังสามารถดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ตามปกติ จึงไม่ได้มีผลต่อการปรับลดเป้าหมายของปริมาณขายในงวด 4Q54 อย่างไรก็ตาม ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ของผู้ประกอบการรายย่อยในบางพื้นที่ของประเทศที่ได้รับความเสียหายของสถานการณ์น้ำท่วม อาจทำให้ปริมาณผลผลิตไก่เป็นในประเทศสำหรับ 4Q54 หายไปจากตลาดชั่วคราว จึงน่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาไก่เป็นในประเทศในช่วงที่เหลือของปี 2554 โดยราคาไก่เป็นเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปี 2554 จนถึงปัจจุบัน เท่ากับ 46.45 บาท/กก. ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานราคาไก่เป็นในปี 2554 ของฝ่ายวิจัยที่ระดับ 45 บาท/กก. โดยรวมแล้ว ฝ่ายวิจัยจึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2554 รวมถึงมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2555 จะเติบโต 8.2% yoy เนื่องจากโรงงานของ GFPT Nichirei (GFPT ถือหุ้น 49%) จะเริ่มเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตมากขึ้นจนถึงระดับคุ้มทุนในปี 2555 ซึ่ง GFPT ต้องป้อนวัตถุดิบไก่สดให้แก่บ.ย่อยแห่งนี้ เพื่อแปรรูป และส่งออกไก่ไปยังต่างประเทศ สำหรับผลกระทบเชิงลบจากการปรับเพิ่มค่าแรงงานขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวันของนโยบายรัฐบาลนั้น ถือเป็นปัจจัยที่กดดันต่อกำไรสุทธิในปี 2555 อย่างไรก็ตาม นโยบายปรับลดภาษีนิติบุคคลจาก 30% ในปี 2554 เหลือ 23% ในปี 2555 และ 20% ในปี 2556 จะช่วยหักล้างจากผลกระทบเชิงลบดังกล่าว ซึ่งฝ่ายวิจัยประเมินในเบื้องต้นว่าจากทั้งสองนโยบายจะทำให้กำไรสุทธิในปี 2555 ของ GFPT ปรับตัวลดลง 5.5% จากเดิม (ซึ่งฝ่ายวิจัยยังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการ)
* คงคำแนะนำซื้อ๊ปลอดภัยจากหลายปัจจัยเสี่ยงทั้งใน และต่างประเทศ
        ฝ่ายวิจัยคงคำแนะนำซื้อ GFPT โดยกำหนด Fair value ปี 2554 เท่ากับ 12.92 บาท อิง PER 12 เท่า ยังเหลือ upside อีก 44% จากราคาปัจจุบัน ทั้งนี้ GFPT ถือเป็นหุ้นที่ปลอดภัยจากหลายปัจจัยเสี่ยงทั้งใน (ปัญหาน้ำท่วม) และต่างประเทศ (ภาวะเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะยุโรป และสหรัฐฯ ที่อาจชะลอตัว) จึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ